นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียจ่ายค่าที่พักเป็นจำนวนเงินมหาศาล

เนื่องจากขาดแคลนพนักงาน ค่าโรงแรมโดยเฉลี่ยพุ่งสูงขึ้นท่ามกลางความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นและการขาดแคลนพนักงานต้อนรับ ผู้พักร้อนในออสเตรเลียได้รับคำเตือนว่าพวกเขาจะจ่ายเงินมากขึ้น

สำหรับค่าที่พักเนื่องจากราคาพุ่งสูงขึ้นท่ามกลางความต้องการที่สูง ในขณะที่ปัญหาการขาดแคลนพนักงานทำให้เจ้าของโรงแรมบางแห่งต้องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว

 

ข้อมูลจากดัชนีราคาโรงแรมของเว็บไซต์จองการเดินทาง Trivago ซึ่งวิเคราะห์ราคาจากเว็บไซต์จองกว่า 400 แห่ง แสดงให้เห็นว่าค่าโรงแรมโดยเฉลี่ยในออสเตรเลียพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่มาตรการควบคุมโรคระบาดผ่อนคลายลง “ราคาเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ช่วงหลังมานี้ราคาค่อนข้างแพง

นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย และฉันรู้สึกว่าเหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราเพิ่งผ่านเทศกาลอีสเตอร์ วันหยุดโรงเรียน วันแอนแซก และวันหยุดยาว” บรรณาธิการด้านการเดินทางของ Finder สเตฟานี ยิป กล่าว

พระอาทิตย์ตกที่ทางเข้าอุทยานแห่งชาติ Noosa รัฐควีนส์แลนด์ รัฐควีนส์แลนด์พิจารณาเก็บภาษีนักท่องเที่ยวใหม่โดยรัฐบาลท้องถิ่น “มีความต้องการการเดินทางที่ถูกกักไว้นี้ พวกเราหลายคนถูกกักขังมาสองปีแล้ว” ดัชนีราคาโรงแรมของ Trivago แสดงให้เห็นว่าราคาเฉลี่ยของห้องพักโรงแรมในซิดนีย์ขณะนี้สูงกว่า 240 ดอลลาร์ต่อคืน เพิ่มขึ้นจาก 206 ดอลลาร์ต่อคืนในปีที่แล้ว สำหรับเมลเบิร์น ราคาเฉลี่ยตอนนี้อยู่ที่ 239 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 200 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ความต้องการเดินทางจำนวนมากทำให้สนามบินภายในประเทศเกิดความล่าช้าเป็นเวลานานและจุดหมายปลายทางที่เคยถูกละเลย เช่น ชนบทห่างไกลทางใต้ของออสเตรเลีย ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ไมเคิล จอห์นสัน ซีอีโอของ Tourism Accommodation Australia

กล่าวว่ายอดจองที่พักพุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยังคงประสบปัญหาในการหาพนักงาน “เรายังคงมีนักท่องเที่ยวที่ทำงานในช่วงวันหยุดกว่า 100,000 คนในระดับก่อนการจำกัด และนักเรียนต่างชาติมากกว่า 150,000 คนลดลง เพียงแค่สองคนนี้เท่านั้นที่เป็นพนักงานโรงแรมและการบริการในสัดส่วนที่มาก” เขากล่าว จอห์นสันกล่าวว่าการขาดแคลนพนักงานทำให้โรงแรมหลายแห่งต้องทำงานที่ความจุ 70% ถึง 80% โดยพนักงานปัจจุบันมีภาระมากเกินไปและขยายไปถึงขีดจำกัดแล้ว

เขากล่าวว่าในช่วงเทศกาล Vivid เมื่อเร็วๆ นี้ในซิดนีย์ ผู้ให้บริการที่พักหลายรายบ่นว่าพวกเขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นและคืนรายได้ที่สำคัญบางส่วนที่สูญเสียไปในช่วงสองปีที่ผ่านมาของการล็อกดาวน์ “ฉันรู้ว่าโรงแรมที่ยังคงต้องการพนักงาน 30 ถึง 40 คน

แทนที่จะเปิดร้านอาหารสองแห่ง พวกเขากำลังดำเนินการอยู่เพียงแห่งเดียว พวกเขาไม่รับการจองการประชุม เพราะพวกเขาไม่มีเจ้าหน้าที่ที่จะจัดการการจองเหล่านั้น” จอห์นสันเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และกล่าวว่าอุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะมีนักศึกษาและนักท่องเที่ยวที่ทำงานในช่วงวันหยุดหลั่งไหลเข้ามาในประเทศ

ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เขากล่าวว่าอุตสาหกรรมกำลังมองหาวิธีใหม่ในการดึงดูดพนักงานในท้องถิ่นและใช้ประโยชน์จากกำลังแรงงานที่มีอยู่ให้ดีขึ้น แต่ก็เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนความคิดริเริ่มเหล่านี้

หอบังคับการที่สนามบินซิดนีย์ถูกมองว่าเป็นเครื่องบินที่กำลังบินขึ้น สหภาพควบคุมการจราจรทางอากาศเตือนการทำงานล่วงเวลาและการขาดแคลนกำลังประนีประนอมกับหน่วยงาน แนวคิดบางอย่างที่ได้รับการโน้มน้าวใจรวมถึงการให้พนักงานที่ต้องการเสริมงานปัจจุบันด้วยกะงานต้อนรับหนึ่งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์เพื่อลดหย่อนภาษีจากรายได้เพิ่มเติม

จอห์นสันกล่าวว่าอุตสาหกรรมนี้กำลังทำงานเพื่อส่งเสริมบทบาทการบริการที่ดีขึ้นให้กับชาวออสเตรเลียรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ออกจากอุตสาหกรรมหลังการล็อกดาวน์ เขาต้องการเห็นเวลาดำเนินการวีซ่าสำหรับแรงงานฝีมือลดลง โดยกล่าวว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบทันทีต่อการขาดแคลนแรงงาน แม้จะมีแรงกดดันด้านราคาที่สูงขึ้น

แต่ Yip กล่าวว่านักท่องเที่ยวไม่ควรยอมแพ้ในช่วงกลางปี ​​แต่ควรมองหาข้อเสนอวันหยุดและการขายในช่วงปลายปีการเงิน เธอแนะนำให้ผู้คนมองหาสิ่งที่ง่ายกว่าในกระเป๋าเพื่อหลีกเลี่ยงรัฐควีนส์แลนด์และเทือกเขาสโนวี่ซึ่งกำลังประสบกับความต้องการสูงสุด โดยราคาที่พักเฉลี่ยหลังบันทึกราคาสูงกว่าในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด (2019) ถึง 17%

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สล็อต ufabet เว็บตรง

หมู่บ้านสะปัน จังหวัดน่าน 

           สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ของจังหวัดน่านซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ถูกพัฒนาให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดด้วยหมู่บ้านดังกล่าวก็คือหมู่บ้านสะปันซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอบ่อเกลือ  

สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นจากการเดินทางไปเที่ยวที่หมู่บ้านสะปันก็คือธรรมชาติที่อยู่ท่ามกลางป่าเขาแวดล้อมไปด้วยต้นไม้และใหญ่มากมายเต็มไปหมด

           หมู่บ้านสะปัน จังหวัดน่าน  สำหรับหมู่บ้านสะปันนั้นเป็นหมู่บ้านที่มีขนาดไม่ใหญ่ด้วยหมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ตอนบนของบ่อเกลือโบราณ  ซึ่งไฮไลท์ที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นจากการเดินทางมาเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็คือการใช้ชีวิตแบบชิวๆแบบ slow Life ของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสามารถมาใช้วิถีชีวิตด้วยการมาพักผ่อนอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้ ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนที่ชอบการใช้ชีวิตแบบธรรมชาติ แบบชาวบ้านมักจะเดินทางมาเที่ยวที่นี่กันอย่างไม่ขาดสาย

            เนื่องจากว่าที่หมู่บ้านสะปันนั้นได้มีการสร้างที่พักเอาไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวนอกจากนี้ยังมีวิวสวยๆให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปรวมถึงมานั่งพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางอากาศที่รายล้อมไปด้วยออกซิเจนที่บริสุทธิ์นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านยังมีทั้งคาเฟ่สวยๆและร้านอาหารรสเลิศเยอะแยะมากมาย   ซึ่งการใช้ชีวิตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนที่หมู่บ้านสะปันนั้นคุณจะได้เพลิดเพลินทั้งรสชาติของอาหารที่อร่อยและบรรยากาศที่เงียบสงบ

             นักท่องเที่ยวจะได้ยินเสียงนกร้องและเสียงน้ำไหลตามลำธาร    สล็อต ufabet เว็บตรง     โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากใครมีการเช่าที่พักค้างคืนนักท่องเที่ยวจะได้ยินเสียงน้ำที่ลำธารไหลผ่านในช่วงเวลายามค่ำคืนเนื่องจากว่าลำธารแห่งนี้เป็นลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านดังนั้นในช่วงเวลากลางคืนในบรรยากาศที่เงียบสงบคุณจะได้ยินเสียงลำธาร ซึ่งเป็นเสียงที่ไพเราะมากเลยทีเดียว 

            สำหรับที่หมู่บ้านสะปันแห่งนี้ถึงเป็นหมู่บ้านที่มีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มากนักแต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นการที่นักท่องเที่ยวนั้นสามารถที่จะไปกางเต็นท์นอนเพื่อชมพูบริเวณหยุดเวลาคาเฟ่ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์เยอะมากหรือแม้แต่หากใครอยากจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามภายในหมู่บ้านสะปันสามารถขึ้นไปบนด้านบนสุดของหมู่บ้านซึ่งจะเป็นบนเนินเขาสามารถมองเห็นภูเขาล้อมรอบซึ่งมีต้นไม้สีเขียวขจีปกคลุมเต็มไปหมด

             ภายในหมู่บ้านสะปันยังมีน้ำตกขนาดใหญ่เป็นน้ำตกประจำหมู่บ้านซึ่งนักท่องเที่ยวนั้นสามารถที่จะเล่นน้ำหรือไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจที่บริเวณน้ำตกก็ได้โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าออกจากหมู่บ้านเพียงแค่ประมาณ 300 เมตรก็ถึงน้ำตกแล้ว  สำหรับใครที่สนใจจะไปเที่ยวหมู่บ้านสะปันและอยากจะไปชมความสวยงามของน้ำตกในหมู่บ้านแนะนำว่าควรจะเดินทางไปช่วงในหน้าฝนเพราะว่าจะทำให้มีน้ำในปริมาณที่มากและน้ำตกจะมีความสวยงามมากเป็นพิเศษนั่นเอง 

เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์  จังหวัดลพบุรี 

สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดลพบุรีโดยจุดที่เราจะพาไปรู้จักในครั้งนี้ก็คือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งเช็คอินของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายที่ได้เดินทางไปเที่ยวจังหวัดลพบุรีกันเลยทีเดียว

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เหมาะจะเดินทางไปเที่ยวในช่วงเดือนตุลาคมและที่นี่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนักใช้ระยะเวลาในการขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว

เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ดังนั้นถ้าหากใครอยากจะสัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่นเย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าวมากเกินไปและไม่ต้องการขับรถไปไกลมากนักก็แนะนำว่าอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาก็คือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่จังหวัดลพบุรีแห่งนี้นั่นเองค่ะที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และความสวยงามเอาไว้

           สำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้นนักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งรถส่วนตัวมาได้หรือถ้าหากนักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวแบบลุยสามารถที่จะนั่งรถไฟมาได้เช่นเดียวกันซึ่งการท่องเที่ยวด้วยการนั่งรถไฟมาเที่ยวที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้นเป็นวิถีการท่องเที่ยวอีกอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวน่าจะมาสัมผัสเพราะเป็นการเที่ยวแบบอันซีนไทยแลนด์ที่น่าทึ่งเป็นอย่างมากเลยทีเดียวโดยจะมีการเปิดให้รถไฟวิ่งไปตามสันเขื่อนซึ่งจะเปิดเฉพาะในช่วงโอกาสพิเศษเท่านั้นเอง 

          สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะทดลองการนั่งรถไฟไปเที่ยวที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ด้วยรถไฟ  สล็อต ufabet เว็บตรง    เที่ยวพิเศษนั้นแนะนำว่าควรจะต้องมีการเช็คทางเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยเสียก่อนเพราะจะมีการแจ้งตารางการเดินรถไฟเอาไว้ว่าจะมีขบวนไหนที่จะมาพานักท่องเที่ยวมาที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์บ้างซึ่งโดยปกติแล้วก็จะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเดือนมกราคมโดยจะมีการเปิดให้นั่งรถไฟได้ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ 

         สำหรับใครที่สนใจจะนั่งรถไฟเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะมีค่าบริการในการเที่ยวต่อครั้งอยู่ที่ประมาณคนละ 600-700 บาทโดยรถไฟที่เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวจะมีทางรถไฟธรรมดาและรถไฟปรับอากาศซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ราคาก็จะแตกต่างกันออกไปอย่างไรก็ตามไม่ว่านักท่องเที่ยวจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็จะมีการคิดเรทราคาค่ารถไฟในราคาเดียวกัน 

      สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่สนใจจะเดินทางไปเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์โดยใช้รถไฟในการชมความงดงามของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะต้องมีการซื้อตั๋วสำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อนเดินทางประมาณ 30 วัน