น้ำตกน้ำตกเพลิงหางม้า (Horsetail firefall)

น้ำตกน้ำตกเพลิงหางม้า (Horsetail firefall) ที่สองเเสงสวยงามเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ที่สองเเสงสวยงาม

น้ำตกน้ำตกเพลิงหางม้า (Horsetail firefall) ตั้งอยู่ในอุทยานเเห่งชาติ yosemite

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเเห่งหนึ่งซึ่งมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละประมาณ 3ล้านคนต่อปีเลยทีทีเดียว

เเละได้ถูกจัดให้เป็นมรดกของโลกในปี1984

น้ำตกน้ำตกเพลิงหางม้า (Horsetail firefall) ตั้งอยู่ที่ แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นน้ำตกขนาดเล็กสองสายก่อจะมารวมกันเเป็นสายเดียวไหลลงจากหน้าผาที่มีความสูงทั้งหมดประมาณ 630เมตรที่จะมีน้ำไหลจากน้ำตกเเค่ในช่วงฤดูหนาว เเละน้ำตกเเห่งนี้ นี้มีความพิเศษตรงที่มันสามารถเกิดเเสงสีส้มที่เหมือนเปลวเพลิงออกมาในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น 

การจะไปชมน้ำตกเเห่งนี้ต้องเดินทางจากที่Northside Drive ไปที่จุดตั้งเเค้มที่ต้องเดินทางประมาณ1.5ไมล์หรือประมาณ2.4กิโลเมตรซึ่งจะต้องใช้เส้นทาง SouthsideDrive & El capitan Crossover ในเส้นทางนี้จะมีจุดตั้งเเคมป์หลายจุดที่สามารถรอชมน้ำตกเเห่งนี้ได้

ความสวยงามของน้ำตก Horsetail firefall

นั้นเมื่อเเสงของดวงอาทิตย์ยามตกดินมาสะท้อนสายน้ำที่ไหลลงมาจากน้ำตกจะทำให้เกิดเป็นสายน้ำที่เรืองเเสงเป็นสีส้มดั่งเปลวเพลิงที่สวยงาม เเต่ใช่ว่าการที่มาชมน้ำตกเเห่งนี้เเล้วจะได้เห็นน้ำตกที่เกิดเเสงสีส้มทุกครั้งนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะการที่จะได้เห็น Horsetail firefall ตอนเกิดเเสงนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างเพราะน้ำในลำธารนั้นไม่ได้ไหลลงมาตลอดทั้งปี น้ำเเข็งที่จับตัวกันบนภูเขาจะต้องมากพอที่จะละลายเเล้วไหลลงมาตามร่องลำธารของภูเขา

ถ้าน้ำเเข็งไม่มากพอก็จะไม่มีน้ำไหลลงมา อุณหภูมิในระหว่างวันที่จะต้องสูงพอที่จะละลายน้ำเเข็งที่อยู่บนภูเขา ถ้าอุณหภูมิเย็นเกินไปก็จะไม่ทำให้น้ำเเข็งละลายลงมา เเม้กระทั้งถ้าวันนั้นท้องฟ้าไม่เเจ่มใสมีเมฆมากหรือมีหมอกหนาเเสงจากพระอาทิตย์จะถูกบังทำให้ไม่สามารถส่องมากระทบกับน้ำที่ไหลลงมาได้  ช่วงเวลาที่เเสงจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่ท้องฟ้าเเจ่มใสเท่านั้นเเละมีเวลาให้ชมเเค่ประมาณ10นาทีก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธุ์เท่านั้น

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  Ufabet ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

ทริปกราบขอพรหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

       เนื่องจากวันอาทิตย์นี้สมาชิกทุกคนในบ้านต่างหยุดงานและอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เมื่อคืนวันเสาร์คุณแม่สามีก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นว่าไปเที่ยวไหว้พระกันดีไหม แม่อยากไปวัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่จังหวัดอุทัยธานี เราได้ยินแม่คุยมาอย่างงี้ไม่ตอบตกลงพาไปได้ไง อีกอย่างนึกๆไปเราก็ไม่ได้ไปไหว้ท่านมาหลายสิบปีแล้ว ถือโอกาสนี้พาแม่และทุกคนในครอบครัวของเรา ไปเที่ยวพักผ่อนพร้อมกราบขอพรหลวงพ่อด้วยกันเลย

       เช้าวันอาทิตย์หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ทุกคนพร้อมกันที่รถเวลา 7.00 น. จากนั้นเริ่มล้อหมุนกันเลย จากบ้านเราเลือกเดินทางไปเส้น ภาชี – นครหลวง เพื่อตัดไปถนนสายเอเชีย แต่ยังไปไม่ถึงไหนเพิ่งออกบ้านไป แค่ 10 กว่ากิโล ดันหิวข้าวเช้า สามีเลยพาแวะไปกินข้าวมันไก่ข้างทางกันก่อน อิ่มแล้วจึงเริ่มออกเดินทางต่อ 

      จากถนนสายเอเชีย เราขับรถตรงไปอย่างเดียว ผ่านป้ายจังหวัด  อ่างทอง – สิงห์บุรี- ชัยนาท ก่อนจะเข้าถึง ตัวเมืองอุทัยธานี ให้เราสังเกต ป้ายอำเภอมโนรมย์ (ชัยนาท)   แล้วให้เราเลี้ยวซ้าย ขับรถตรงตามทางไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา ตามข้างทางมีป้ายบอกทางไปวัดท่าซุงเต็มไปหมด ให้ขับรถตามป้ายบอกทางกันไปเรื่อยๆ 

     วัดท่าซุง มีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า วัดจันทาราม  ตั้งอยู่ที่ ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี เมื่อขับรถมาถึงหลายท่านอาจเกิดอาการงง เนื่องจากวัดมีประตูทางเข้าด้วยกันสองฝั่งถนน หากเดินทางมาจากเส้นมโนรมย์ ประตูแรกด้านขวามือที่เห็นจะเป็นทางเข้าไปยังฝั่งวัดเก่า มีมณฑปแก้ว วิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ วิหารหลวงพ่อ 5 พระองค์  ส่วนอีกฝั่งประตูด้านซ้ายถัดจากโรงพยาบาลของวัดจะเป็นทางไป วิหารแก้ว 100 เมตร  วิหารสมเด็จองค์ปฐมสมเด็จองค์ปฐม ปราสาททองคำ และวิหารอื่นๆที่น่าสนใจอีกมาก

      ครอบครัวเราได้เดินทางไปถึง 09.45 น. เนื่องจากยังเหลือเวลาอีกนานกว่าที่วิหารแก้วจะปิด วิหารแก้ว เปิดช่วงเช้า  9.00-11.45 น.  ช่วงบ่าย 14.00-16.00น.  เราจึงเลือกเข้าไปไหว้ฝั่งวัดเก่าก่อน ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที จึงพากันขับรถไปจอดที่ฝั่งวิหารแก้ว 100 เมตร ตรงส่วนนี้นับเป็นไฮไลท์ก็ว่าได้ เพราะคนที่มาส่วนใหญ่จะต้องเข้ามากราบไหว้สรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่บรรจุไว้ในโลงแก้ว  และทิศตรงกันข้ามมีพระพุทธชินราชองค์จำลองที่งดงามมากตั้งอยู่ให้ผู้คนได้ไปสักการะขอพร  ภายในวิหารประดับด้วยแก้วคริสตันสวยงามดั่งคำร่ำลือ

  เสร็จจากตรงนี้ ขับรถไปเที่ยวชมความงามของปราสาททองคำและวิหารอื่นๆในบริเวณวัดกันต่อ พอใกล้เที่ยงก่อนจะเดินทางกลับก็พากันไปแวะกินข้าวที่ร้านอาหารป้าสำราญ อาหารอร่อย วิวดีเพราะมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา  กินข้าวอิ่มกันแล้ว พากันขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ เราแอบมองมาเบาะคนนั่งหลัง จะเห็นแม่สองแม่คุยกันยิ้มแย้มมีความสุขหัวเราะกันตลอดทางเลย