ทริปกราบขอพรหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

       เนื่องจากวันอาทิตย์นี้สมาชิกทุกคนในบ้านต่างหยุดงานและอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เมื่อคืนวันเสาร์คุณแม่สามีก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นว่าไปเที่ยวไหว้พระกันดีไหม แม่อยากไปวัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่จังหวัดอุทัยธานี เราได้ยินแม่คุยมาอย่างงี้ไม่ตอบตกลงพาไปได้ไง อีกอย่างนึกๆไปเราก็ไม่ได้ไปไหว้ท่านมาหลายสิบปีแล้ว ถือโอกาสนี้พาแม่และทุกคนในครอบครัวของเรา ไปเที่ยวพักผ่อนพร้อมกราบขอพรหลวงพ่อด้วยกันเลย

       เช้าวันอาทิตย์หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ทุกคนพร้อมกันที่รถเวลา 7.00 น. จากนั้นเริ่มล้อหมุนกันเลย จากบ้านเราเลือกเดินทางไปเส้น ภาชี – นครหลวง เพื่อตัดไปถนนสายเอเชีย แต่ยังไปไม่ถึงไหนเพิ่งออกบ้านไป แค่ 10 กว่ากิโล ดันหิวข้าวเช้า สามีเลยพาแวะไปกินข้าวมันไก่ข้างทางกันก่อน อิ่มแล้วจึงเริ่มออกเดินทางต่อ 

      จากถนนสายเอเชีย เราขับรถตรงไปอย่างเดียว ผ่านป้ายจังหวัด  อ่างทอง – สิงห์บุรี- ชัยนาท ก่อนจะเข้าถึง ตัวเมืองอุทัยธานี ให้เราสังเกต ป้ายอำเภอมโนรมย์ (ชัยนาท)   แล้วให้เราเลี้ยวซ้าย ขับรถตรงตามทางไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา ตามข้างทางมีป้ายบอกทางไปวัดท่าซุงเต็มไปหมด ให้ขับรถตามป้ายบอกทางกันไปเรื่อยๆ 

     วัดท่าซุง มีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า วัดจันทาราม  ตั้งอยู่ที่ ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี เมื่อขับรถมาถึงหลายท่านอาจเกิดอาการงง เนื่องจากวัดมีประตูทางเข้าด้วยกันสองฝั่งถนน หากเดินทางมาจากเส้นมโนรมย์ ประตูแรกด้านขวามือที่เห็นจะเป็นทางเข้าไปยังฝั่งวัดเก่า มีมณฑปแก้ว วิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ วิหารหลวงพ่อ 5 พระองค์  ส่วนอีกฝั่งประตูด้านซ้ายถัดจากโรงพยาบาลของวัดจะเป็นทางไป วิหารแก้ว 100 เมตร  วิหารสมเด็จองค์ปฐมสมเด็จองค์ปฐม ปราสาททองคำ และวิหารอื่นๆที่น่าสนใจอีกมาก

      ครอบครัวเราได้เดินทางไปถึง 09.45 น. เนื่องจากยังเหลือเวลาอีกนานกว่าที่วิหารแก้วจะปิด วิหารแก้ว เปิดช่วงเช้า  9.00-11.45 น.  ช่วงบ่าย 14.00-16.00น.  เราจึงเลือกเข้าไปไหว้ฝั่งวัดเก่าก่อน ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที จึงพากันขับรถไปจอดที่ฝั่งวิหารแก้ว 100 เมตร ตรงส่วนนี้นับเป็นไฮไลท์ก็ว่าได้ เพราะคนที่มาส่วนใหญ่จะต้องเข้ามากราบไหว้สรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่บรรจุไว้ในโลงแก้ว  และทิศตรงกันข้ามมีพระพุทธชินราชองค์จำลองที่งดงามมากตั้งอยู่ให้ผู้คนได้ไปสักการะขอพร  ภายในวิหารประดับด้วยแก้วคริสตันสวยงามดั่งคำร่ำลือ

  เสร็จจากตรงนี้ ขับรถไปเที่ยวชมความงามของปราสาททองคำและวิหารอื่นๆในบริเวณวัดกันต่อ พอใกล้เที่ยงก่อนจะเดินทางกลับก็พากันไปแวะกินข้าวที่ร้านอาหารป้าสำราญ อาหารอร่อย วิวดีเพราะมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา  กินข้าวอิ่มกันแล้ว พากันขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ เราแอบมองมาเบาะคนนั่งหลัง จะเห็นแม่สองแม่คุยกันยิ้มแย้มมีความสุขหัวเราะกันตลอดทางเลย