เที่ยวฮ่องกงย่านไหนบ้าง

ฮ่องกงถือเป็นเมืองที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกันจำนวนมากเนื่องจากค่าตั๋วที่มีราคาถูก ค่าใช้จ่ายทั้งในเรื่องการเดินทาง ค่ากินและการซื้อของมีราคาที่พอรับได้ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเท่ยวที่นิยมอย่างสิ่งปลูกสร้างที่มีความแปลกใหม่และแตกต่างจากที่อื่นๆ ห้างสรรพสินค้าที่เหมาะกับสายช็อปอย่างมาก สถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมายที่สำหรับให้คนที่ศรัทธาไปกราบไหว้บูชา

และที่สำคัญมีสถานที่พักผ่อนหน่อยใจอย่างดิสนีย์แลนด์ด้วย ทำให้หลายๆคนเลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวยังฮ่องกงนั่นเองเพราะถือว่าเป็นประเทศมีทุกอย่างอย่างครบวงจร ทั้งกินเที่ยวช็อปและทำบุญด้วยและสำหรับคนไปเที่ยวฮ่องกงนั้นโดยส่วนใหญ่ก็มักจะเที่ยวหรือพักในย่านๆเดียวเท่านั้นทำให้บางครั้งการไปเที่ยวของเราอาจจะไม่เต็มที่มาดูกันว่าเที่ยวฮ่องกงเราสามารถไปเที่ยวหรือพักย่านไหนกันบ้าง

จิมซาจุ่ย เป็นย่านยอดฮิตของฮ่องกงเลยทีเดียวเพราะนักท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่ที่ไป้ที่ยวฮ่องกงนั้นจะพักกันที่ย่านนี้ เพราะด้วยทำเลที่ตั้งของย่านนั้นเป็นย่านที่อยู่ระหว่างกึ่งกลางกลับย่านอื่นๆนั่นเองทำให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและที่สำคัญย่านนี้ยังเป็นย่านที่รวมของแหล่งช็อปปิ้งชื่อดังของฮ่องกงอีกด้วยทั้งแบรนด์ฮ่องกง

และแบรนด์เนมเลยทีเดียวและเป็นแหล่งที่ขึ้นชื่อด้านของกินชื่อดังต่างๆของฮ่องกงด้วย ทำให้ย่านนี้เหมาะสำหรับขาช็อปและขากินอย่างมาก สำหรับย่านจิมซาจุ่ยก็สามารถที่จะเดินทางไปยัง Avenue Of Stars ที่เป็นสถานที่แสดงแสงสีเสียงแห่งเกาะฮ่องกงในยามค่ำคืนได้อย่างสะดวกมากอีกด้วย

มงก๊ก เป็นย่านที่ไม่ค่อยคึกคักมากเท่ากับย่านจิมซาจุ่ยทำให้ย่านนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายแต่ยังสารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกและสามารถเดินได้ง่ายในการไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างวัด วังต้าเซียนด้วยนอกจากนี้นั้นย่านมงก๊กถือว่าเป็นย่านที่ชิคสำหรับวัยรุ่นฮ่องกงด้วยเพราะในยามค่ำคืนก็จะมีวัยรุ่นออกมาสังสรรค์กันที่ร้านคราฟเบียร์สุดชิคที่มีหลายร้านในย่านมงก๊กนั่นเอง

เซนทรัล เป็นย่านที่มีความคึกคักอย่างมากทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะมีสถานที่มากมายอยู่ในย่านนี้ทั้งแหล่งทำงานของคนฮ่องกงและสถานที่บันเทิงที่มีการเปิดในยามค่ำคืนมากมายทำให้ในย่านเซนทรัลแห่งนี้นั้นเป็นย่านที่ไม่มีการหลับไหลย่านนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวยามราตรีและไม่อันตราย

ตุงชุง เป็นย่านที่ใกล้กลับสนามบินที่สุดซึ่งตั้งอยู่เป็นลักษณะคล้ายเกาะและเป็นย่านที่อยู่ใกล้กับดิสนีแลนด์ด้วย ซึ่งการพักในย่านนี้นั้นก็จะช่วยทำให้เราเดินทางไปกลับยังสนามบินได้อย่างสะดวกและยังสามารถเดินทางไปยังกระเช้าหน่องปิงและวัดโปลินที่ขึ้นชื่อและนิยมมาสักการะกรายไหว้ขอพรทั้งชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวด้วย

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  สมัครยูฟ่าเบท

โอะไดบะ (Odaiba)

  การเดินทาง

เดินจาก Telecom Center (U09) ทางออก south ประมาณ 5 นาที 

เปิดทำการทุกวันเวลา 11.00-9.00 น. ของวันถัดไป (เข้าได้จนถึง 7.00 น. )

ผู้ใหญ่วันจันทร์-วันศุกร์ 2480 เยน

วันเสาร์-วันอาทิตย์ 2680 เยน 

เข้าหลัง 18.00 น. 1980 เยน

วันเสาร์-วันอาทิตย์ 2180 เยน และเข้าหลัง 2.00 น. 2000 เยน 

เด็กอายุ 4-12 ปี 1000 เยน 

อายุต่ำกว่า4ปีเข้าฟรี

 

Gundum Robot & Gundum front

       บริเวณลานหน้าห้าง Diver city เป็นที่ตั้งของหุ่นgundum RX 78-2 มีขนาดสูง 18 เมตร เท่าของจริง ในช่วงค่ำของทุกวันจะมีโชว์การแสดงแสงสีประกอบฉายบนจอ LED ด้านหลังหุ่นยนต์เป็นจุดดึงดูดผู้คนที่มาเยือนโอะไดบะ นอกจากนี้ที่ชั้น 7 ของห้าฃ Diver city ยังมีพิพิธภัณฑ์ Gundum front เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโมเดลกันดั้มเบื้องหลังการสร้างหุ่นยนต์กันดั้มยักษ์และสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับกันดั้มอีกด้วยใครเป็นสาวกกันดั้มไม่ควรพลาดหากจองตั๋วล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์จะได้ราคาถูกกว่าไปซื้อที่หน้าทางเข้าด้วยนับว่าเป็นศูนย์รวมของเล่นที่หลายๆคนชื่นชอบ และแฟนตัวจริงสาวกกันดั้มต้องห้ามพลาดเป็นอันขาด และที่นี่เป็นที่ที่ถ่ายทำหนังการ์ตูนเรื่องดังอีกหลายเรื่องด้วย ในวันครบรอบ มักจะมีการจัดงานฉลองครบรอบในแต่ล่ะปีเพื่อดึงดูดเหล่าสาวกทั้งหลายอีกด้วย

  การเดินทาง

เดืนออกจากสถานี Daiba (U07) ทางออก south 5 นาที 

เวลาเปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 10.00-21.00 น. ประตูจะปิดเวลา 20.00 น.

หุ่นยนต์กันดั้มที่อยู่ด้านหน้าสามารถชมฟรีส่วนพิพิธภัณฑ์ Gundum front 

ผู้ใหญ่ 1200 เยน

เด็ก 1000 เยน

 

Toyota Megaweb

       เป็นสถานที่จัดแสดงรถและนวัตกรรมใหม่ใหม่ของบริษัทโตโยต้า (Toyota city showcase) ที่ภายในมีกิจกรรมให้ลองเล่นมากมายทั้งทางวิ่งจำลองให้ผู้เข้าชมได้ทดลองขับรถรุ่นใหม่ๆ เกมทดลองขับรถสำหรับเด็กเด็กโซน History garrage ที่จัดแสดงรถยนต์ตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งบริษัทโตโยต้ารวมถึงโซน hybrid wonderland ที่จัดแสดงรถยนต์และเทคโนโลยีไฮบริด รวมถึงเป็นเมืองตัวอย่างในการใช้พลังงงานสะอาด

  การเดินทาง

เดินจากสถานี Aomi (u10) ทางออก north 3 นาที

เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. 

สามารถเข้าชมได้ฟรี

 

 

สนับสนุนโดย  www.ufa168.co ลิงค์เข้าใช้งานค่ะ

ญี่ปุ่นหรือดินแดนอาทิตย์อุทัย (Land of the rising sun)

  ในส่วนของวันนี้เราจะพาทุกๆท่านไปดูกันว่าในเขตภูมิภาคคันโตนั้นมีอะไรสนุกๆให้เราได้เที่ยวเล่นกันบ้าง ทำไมเขตคันโตจึงกลายเป็นเหตุผลของจุดมุ่งหมายปลายทางแรกๆที่คนอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นนึกถึงก่อนที่อื่น 

1.เพราะเป็นศูนย์กลางของประเทศ 

เขตคันโตเป็นศูนย์กลางทุกด้านของประเทศญี่ปุ่นเพราะเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงอย่างโตเกียวที่รวบรวมความเจริญไว้แทบจะทุกอย่างเอาไว้ที่นี่และเป็นที่ตั้งของอีกทั้งสองสนามบินหลักๆ คือสนามบินนาริตะกลับสนามบินฮาเนดะ และเป็นต้นสายของรถไฟในฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชูซึ่งทำให้เขตคันโตนั้นจึงกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางที่มีความสะดวกสบายง่ายต่อการเดินทางที่จะต่อรถไฟไปยังภูมิภาคอื่นๆไม่ว่าจะเป็นทั้งชูบุโทโฮะกุ และคันไซ สำหรับคนที่มาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกๆจึงเลือกเดินทางที่จะมาที่ภูมิภาคคันโตด้วยเหตุผลที่ง่ายต่อการเดินทางในด้านการรถไฟที่เอื้ออำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวไปต่อยังเขตอื่นๆของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย 

2.เป็นแหล่งสวรรค์ของนัก Shopping

หากต้องการมา Shopping ที่ญี่ปุ่นนั้นคงไม่มีภูมิภาพไหนเหมาะไปกว่าคันโตแล้วเพราะในเขตคันโตนี้มีย่าน Shopping มากมายไม่ว่าจะเป็นชิบูยส ฮาราจุกุ ชินจุกุกินซ่า หรือจะเป็นถนนเส้น แคสสตรีทที่เป็นถนนยอดนิยมของเหล่าวัยรุ่นและคนญี่ปุ่นที่ไปเดินกันเยอะมากๆ มีของขายสองข้างทางเต็มไปหมด ตลอดจนเส้นทางนี้สามารถเดินยาวไปทะลุถึงฮาราจุกุเลยก็ได้ และยังมีแหล่งขายของเหี่ยวกับอิเล็คทรอนิกส์และสินค้าเกี่ยวกับการ์ตูนอะนิเมะ ยังอากิฮาบาระจึงเรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ Shopping หมดครบทุกอย่างเลยก็ว่าได้

3.มีสวนสนุกชื่อดังถึงขั้นระดับโลกรวมไว้สามแห่ง

ภูมิภาคคันโตเป็นที่ตั้งของสวนสนุกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงระดับโลกถึงสามแห่งด้วยกันคือดิสนีย์แลนด์ (Disneyland)  , ดิสนีย์ซี (Disney Sea ) และฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) นอกจากนี้ยังมีสวนสนุกอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมายเช่น Tokyo Joypolis , Yomiuri-land , Sanrio Puroland และ Cosmo World Fun Park

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ

อาหารอร่อยรสชาติเพลินลิ้นร้านอาหารแถวรังสิต

สำหรับคนที่ชอบกินวันนี้เราจะมาแนะนำร้านอาหารที่บรรยากาศน่านั่งแถมรสชาติของแสนจะอร่อยมีร้านไหนกันบ้างวันนี้เราจะพาไปดูกันเลยค่ะ

สำหรับร้านแรกคนที่ชอบอาหารแนวซีฟู้ดก็ไม่พลาดที่นี่เลยค่ะร้านทะเลทิพย์อยู่ที่คลองสี่จังหวัดปทุมธานีร้านนี้อยู่ใกล้กับกรุงเทพเดินทางไม่ไกลเลยขับรถมาแป๊บแป๊บก็ถึงแล้วอาหารที่นี่สดและอร่อยมากๆหนังจีนนี่สุดยอดของความแซ่บขึ้นชื่อเรื่องของอร่อยก็ต้องเป็นนี่เลยหอยนางรมหอยนางรมที่นี่ตัวใหญ่ใหญ่สุดมากๆอยากจะบอกว่าตัวใหญ่เท่าฝ่ามือเลยอะค่ะเจ้าของร้านบอกว่าส่งตรงมาจากสุราษฎร์เลยทีเดียวที่สำคัญราคาไม่แพงนอกจากหอยนางรมแล้วยังมีปูกุ้งและพวกยำทะเลต่างๆอีกมากมายหากใครสนใจเปิดบริการทุกวันปิดเฉพาะวันพุธนะคะถ้าจะมาเดินทางมาใช่ตั้งแต่เวลา 11:00 น. ถึง 22:00 น.

ร้านต่อมาเป็นร้านอาหารยามเย็นที่นั่งสบายสบายชิลล์ชิลล์บรรยากาศผ่อนคลายมากๆที่นี่เค้ารับจัดงานเลี้ยงด้วยค่ะสำหรับที่นั่งมีทั้งห้องแอร์หรือจะนั่งข้างนอกเพื่อชมธรรมชาติก็ได้มีส่วนผู้สวยสวยและน้ำผุดให้นั่งมองระหว่างกินข้าวได้ด้วยและที่นี้ขอบอกเลยว่าต้มยำกุ้งแม่น้ำรสชาดแซ่บจี๊ดถึงใจจริงๆค่ะหากใครจะมาที่นี่ร้านชื่อ The  Local Restaurant  ซึ่งร้านจะอยู่ติดเส้นเลียบทางรถไฟรังสิตนะคะอยู่ที่จังหวัดปทุมธานีที่นี่เปิดบริการทุกวันแต่จะเปิดเย็นหน่อยคือเปิดตั้งแต่ 15:30 น. จนถึง 23:00 น. สำหรับที่นี่มีคาราโอเกะให้ร้องด้วยและอาหารก็สามารถเลือกรับประทานของชาติไหนก็ได้เพราะเป็นอาหารนานาชาติเลยค่ะ

สำหรับร้านที่สามชื่อว่าร้านศรีไพลินอยู่ที่รังสิตของสามร้านนี้จะมีบรรยากาศของร้านสบายสบายร้านจะน่านั่งมากภายในร้านจะตกแต่งออกโทนสีเขียวและอาหารส่วนใหญ่ก็เน้นอาหารซีฟู้ดมีกุ้งยักษ์ตัวโตโตพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บหมูสะเต๊ะชิ้นใหญ่ใหญ่และต้มยำกุ้งตัวโตโตและอาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่เลยเป็นผัดไทกุ้งแม่น้ำซึ่งถ้าใครมาจะไม่พลาดที่จะสั่งอาหารจานเด็ดจานนี้เลยหากใครที่สนใจมารับประทานอาหารที่ร้านนี้สามารถเดินทางมาได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 น. จนถึง 21:00 น.

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับร้านอาหารสามร้านเด็ดเด็ดที่นำข้อมูลมาฝากกันเป็นร้านอาหารที่บรรยากาศน่านั่งแล้วอาหารก็รสชาติจัดจ้านใครที่ชอบอาหารซีฟู้ดแนะนำทั้งสามร้านนี้ได้เลยค่ะถูกปากถูกใจแน่นอน อย่าลืมแวะไปลองชิมกันดูนะคะ   

 

สนับสนุนโดย  ดูบอล

ของฝากน่าซื้อเมื่อมาเที่ยวที่นาโกยะประเทศญี่ปุ่น

วันนี้มีคำถามมาถามทุกคนค่ะ คุณรู้กันไหมว่าเมืองที่ใหญ่รองลงมาจากโตเกียวและโอซาก้าของประเทศญี่ปุ่นคือเมืองอะไร? ติ๊กตอก ติ๊กตอก ให้เวลานึก 5 วินาทีค่ะ…..คำตอบนั้นก็คือ เมืองนาโกยะ นั้นเองค่ะ เมืองนาโกยะนั้นเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 แถมยังเป็นเมืองที่อยู่ตรงกลางของประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ เป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัดไอจิที่เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีบริษัทใหญ่อย่างโตโยต้าตั้งอยู่ในเมืองด้วยค่ะ

เป็นเมืองที่ทันสมัยแต่ก็ยังคงไว้แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แบบดั้งเดิม จึงเป็นเมืองที่คนเริ่มไปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นค่ะ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำของฝากน่าซื้อจากเมืองนาโกยะ เผื่อใครได้มีโอกาสไปเที่ยวจะได้ช้อปปิ้งของติดไม้ติดมือกลับมาค่ะ

  1. ขนมคิทแคทรสขนมปังถั่วแดง (KitKat Azuki Sandwich Flavor) ในทุกภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีขนม KitKat รสชาติที่แตกต่างกันไปในตามท้องที่ และที่เมืองนาโกยะนั้นก็คือรสขนมปังถั่วแดงค่ะ หรือก็คือรส โองุระโทสต์ ที่เป็นขนมปิ้งทามาการีนและถั่วแดงเป็นอาหารเช้ายอดนิยมที่มีอยู่ตามร้านคอฟฟี่ช็อปของเมืองนาโกยะค่ะ 
  2. โอกุระโทสต์แลงเดอร์ชา (Langue de Chat) อีกหนึ่งขนมรสโองุระโทสต์ที่เป็นที่นิยมจากเมืองนาโกยะค่ะ เป็นคุกกี้บางกรอบ ที่สอดไส้ด้วยไวท์ช็อกโกแลต ถั่วแดงกวน และมาการีนค่ะ อาจจะนึกภาพกันไม่ค่อยออก แต่บอกเลยค่ะว่าเป็นขนมที่น่าลองมากๆค่ะ
  3. จาการิโกะรสปีกไก่ทอด (Jagariko Tebasaki Flavor) เทบาซากิ หรือ ก็คือปีกไก่ทอดรสเผ็ด เป็นอีกหนึ่งอาหารที่เป็นที่ชื่นชอบของเมืองนาโกยะ ยิ่งกินคู่กับเบียร์ หรือ ซาเกแล้วเยี่ยมไปเลยล่ะค่ะ ซึ่งขนมจาการิโกะก็พลาดที่หยิบปีกไก่ทอดมาทำเป็นรสของขนมค่ะ เป็นขนมที่นิยมในหมู่ผู้ใหญ่อย่างมากด้วยค่ะ
  4. เซนเบ้กุ้งยูคาริ (Ebi Senbei Yukari) เป็นขนมที่ไม่ได้เป็นของขึ้นชื่อของเมืองนาโกยะเพียงเท่านั้น แต่เป็นขนมที่เป็นที่นิยมไปทั่วทั้งจังหวัดไอจิเลยล่ะค่ะ  เป็นขนมข้าวเกรียบกรอบๆที่อัดแน่นไปด้วยกุ้งที่มีมากถึง 70 % ต่อแผ่นและผ่านการอบอย่างพิถีพิถันถึง 2 ครั้งจึงทำให้มีความกรอบอย่างมากค่ะ
  5. ขนมมันจูนามิโกะชิเก็น (Namikoshiken Manju) เป็นขนมมันจูแฮนเมดที่ทำเป็นรูปเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ได้น่ารักมากๆเลยค่ะ ขนมมันจูนามิโกะชิเก็นจะทำออกมาชิ้นพอดีคำใส่ใด้วยถั่วแดงกวนรสหวาน หรือ ช็อกโกแลต โดยธีมของขนมมันจูจะแบ่งสัตว์ออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆค่ะ คือ สวนสัตว์ และ อควาเรียม ค่ะ

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  holiday palace สมัคร

น้ำตกทีลอซุ น้ำตกจังหวัดตาก

น้ำตกคือน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาอันสูงชันไหลลงตากมชั้นมาเรื่อนและผู้คนเรียกมันว่าน้ำตก ถ้าพูดถึงน้ำตกโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนจะมีคนต้องการไปเที่ยวที่นี้เยอะมากเนื่องจากแม้จะไม่ใช้หน้าร้อนอากาศที่ไทยก็ยังร้อนและไม่ต้องพูดถึงเลยว่าอากาศที่ประเทศไทยในช่วงหน้าร้อนจะเป็นยังไง เพราะแน่อยู่แล้วว่าอากาศต้องร้อนเพิ่มเป็น 2 เท่าชนาดแอร์ยังเอาไม่อยู่ดังนั้นคนไทยจึงอยากจะไว้น้ำและอยู่ในน้ำ

เพราะในน้ำเย็นกว่าเวลาเราไม่ได้ว่ายน้ำ และนอกจากน้ำตกจะช่วยดับร้อนคนไทยได้แล้วน้ำการไปเที่ยวน้ำตกของคนไทยข้อแรกเลยคือ น้ำเย็น ข้อที่ 2 คือ วิวสวย ข้อที่ 3 คือ ลมเย็น นี้คือข้อทั้งสามข้อที่จะเป็นสิ่งช่วยเลืกว่าจะไปน้ำตกที่ไหน วันนั้นน้ำตกที่จะมาแนะนำเลยก็คือ น้ำตกลอซู จน้ำตกลอซูเป็นน้ำตกที่อยู่ที่จังหวัดตากซึ้งน้ำตกอาซูคือน้ำตกที่มีขนาดใหญ่จนติดอันดับน้ำตกที่สูงและใหย่ที่สุดในทวีปเอเชียซึ้งน้ำตกนี้อยู่ที่อันดับที่ 6 ค่ะ เรียกได้ว่าน้ำตกที่นี้นั้นใหญ่และสูงสมกับที่ติดอันดับเลยค่ะ

ซึ้งความหมายของคำว่าทีลอซูนั้นหมายถึง น้ำตกสีดำ นั้นเองค่ะ แต่การที่เรียกว่าน้ำตกสีดำนั้นก็เพราะว่าเวลาที่น้ำไหลปผ่ายหินต่างๆเมื่อมองจะเห็นว่าก้อนหินเวลาที่โดนน้ำจะกลายเป็นสีดำดังนั้นจึงมีการตังชื่อที่นี้ว่าน้ำตกสีดำหรืออีกภาษาหนึ่งคือทีลอซูนั้นเอง ซึ้งน้ำที่นี้นั้นไหลแรงมากทำให้ทางเจ้าหน้าที่ติดป้ายประกาศไว้ว่าเนื่องจากไม่สามารถที่จะเปิดให้คนไปเล่นได้อันตรายต่อชีวิต

ดังนั้นน้ำตกทีลอซูน้ำตกดำจึงไม่มีใครกล้าไปเล่นน้ำเลยแต่มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่มาที่นี่และถ่ายรูปแทนน้ำตกนี้จะแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จะเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากผาหินที่สูงมากกว่า 300 เมตร 2 จะเป็นน้ำตกพี่อยู่แถวๆน้ำตกที่ 1 ฉันจะอยู่ต่อลงมาน้ำตกที่ลดหลับไหลลงมาตามชั้นโขดหิน แต่ที่สวยที่สุดคือน้ำตกอันที่ 3 จะเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากฟ้าเช่นเดียวกัน

แต่ว่าตรงนี้จะมีป่ามีต้นไม้มาคอยอยู่เป็นระยะระยะทำให้ดูเหมือนว่าเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากเรียกว่าสวนคนละบรรยากาศกับอีกกลุ่มนึงเลยค่ะ สมองแยกๆกันก็จะเป็นประมาณ 3 กลุ่มถ้ามารวมกันก็เรียกได้ว่าเป็นน้ำตกที่สวยมากเลยนะซึ่งถ้าหารใครยังไม่เคยไปนั้นอยากให้ได้มีโอกาสไปเที่ยวกันจริงๆ คะ

 

 

สนับสนุนโดย  Holiday Palace

ท่องเที่ยวที่จุดสูงสุดของประเทศไทย

วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปที่จุดท่องเที่ยวชมวิวที่สวยและสูงมากที่สุดของกรุงเทพมหานครเรามาดูกันว่าจะมีการท่องเที่ยวสวยสวยตรงไหนบ้างที่เราควรจะต้องลองไปที่ชั้นนั้น ที่นี้นั้นมีชื่อว่า มหานคร สกายวอล์ค ที่นี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากซึ้งที่นี้นั้นจะเหมาะมากกับคนที่ไม่กลัวความสูงเพราะสถานที่รี้นั้นดังเรื่องความสูงที่สูงอันดับ 1 ของประเทศไทยเลยค่ะ 

ซึ้งนอกจากความสูงที่สูงมากแล้วที่นี้ยังโด่งดังมากขึ้นอีกก็เพราะว่าด้านบนสูงสุดหรือก็คือดาดฟ้าเพราะว่าที่นี้นั้นมีกระจกใสใสเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวที่นี้ไปเหยีบกระจกใสและชมวิวไปพร้อมๆกันไปเลยซึ้งที่ดียิ่งกว่าคือเวลาที่จะขึ้นลิฟต์เพื่อไปที่จุดสูงสุดเพื่อที่จะได้ไปเหยีบกระจกนั้นในลิฟต์จะมีรูปภาพขยับไปมาเหมือนว่าตัวของเรานั้นกำลังล่องลอยไปมาในอากาศซึ้งลิฟต์นี้นั้นทำให้เรารู้สึกว่าเวลานั้นผ่านไปแค่ไม่ถึงนาทีเท่านั้นแต่ก็ขึ้นไปตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้นที่ 74เลย

เรียกได้ว่าทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปที่ลิฟต์เพื่อไปชั้นบนและจะได้ไม่เบื่อด้วยเวลาที่ต้องรอขึ้นไปที่ชั้นสูงสุดเพื่อชมวิวถึงแม้ที่พูดถึงไปจะมีแต่ชั้นสูงสุดหรือก็คือชั้นที่ 74 นั้นแหละค่ะแต่จริงๆแล้วทุกๆชั้นก็มีความสวยงามเหมือนกันเพียงแต่แค่ชั้นที่โด่งดังที่สุดจะเป็นชั้นสูงสุดหรือชั้น 74 นั้นเองค่ะ ซึ้งเรามาดูกันว่าที่นี้นั้นนอกจากมุมชมวิวด้านบนสุดยังมีสถานที่อีกที่อยู่ในตึกนี้ว่ามีอะไรบ้างดีกว่าค่ะ

เอาจริงๆแล้วทั่วทั้งโลกมีสถานที่ที่โด่งดังอีกอย่างเลยค่ะนั้นก็คือ บาร์ที่หรูที่สุดติดอันดับของโลกซึ้งที่นี้นั้นมีอาหารหลากหลายอย่างที่จะมีเชฟที่มีฝีมือมาทำอาหารและเครื่องดื่มให้เราได้ชิมรสชาติกันอย่างสบายใจเลยค่ะ

ถึงแม้จะบอกว่าที่นี้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สูงที่สุดอันดับ 1 ของประเทศไทยแล้วนั้นที่นี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวบนกระจกที่สูงที่สุดแล้วยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวบนกระจกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเลยด้วยใหญ่จนสามารถที่จะติดอันดับของโลกได้เลยค่ะ

ซึ้งที่นี่นั้นยังติดอันดับว่า ลิฟต์ที่นี้นั้นเลื่อนขึ้นไปด้านบนเร็วมากซึ้งสามารถเลื่อนขึ้นไปตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้นสูงสุดหรือก็คือชั้นที่ 74 ได้ภายในเวลา 50 วิ ซึ้งติดอันดับที่ 1 เลยนะคะ 

  แหละนี้คืออีก 3 อย่างที่ทำให้ที่นี้มีความโด่งดังเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ufabetcn

Café ในกรุงเทพของเหล่าทาสแมว

Café แมวนั้นเป็นสถานที่รวบรวมน้องแมวสายพันธุ์ต่าง ๆสุดน่ารักไว้ให้เหล่าทาสทั้งหลายที่ไม่ได้เลี้ยงแมวเองแต่มีความชื่นชอบแมวเป็นอย่างมากหรือผู้ที่เลี้ยงแมวอยู่แล้ว แต่แอบนอกใจแมวที่บ้านอยากมาหาน้องแมวสุดน่ารักที่อื่นบ้าง ก็สามารถมานั่งดื่มเครื่องดื่มที่มีบริการใน Café พร้อมกับน้อง ๆสุดน่ารักได้ ในกรุงเทพนั้นก็มี Café น้องแมวเปิดอยู่มากมาย และบทความนี้ก็ได้คัด Café เด็ด ๆมารวบรวมไว้ให้เหล่าทาสทั้งหลายได้ตามพิกัดไปหาน้อง ๆกัน

Caturday Cat Café ตั้งอยู่ที่โซน Coco walk ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี Café แห่งนี้รวบรวมเหล่าบรรดาน้องแมวไว้หลากหลายสายพันธุ์เพื่อเอาใจเหล่าทาสแมวทั้งหลาย โดย Café แห่งนี้จะเน้นที่แมวเป็นหลักมากกว่าการเน้นการบริการเครื่องดื่มหรือขนมหวานต่าง ๆจึงมีให้เลือกไม่มากนัก และการเข้าไปหาน้องแมวก็ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของร้านอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นที่รู้กันดีของเหล่าทาสแมวว่า น้องแมวนั้นจะมีอารมณ์ที่ค่อนข้างคาดเดาได้ยาก เพราะฉะนั้นทางร้านจึงห้ามอุ้มน้องโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของทาสทั้งหลายนั่นเอง

Kitty Cat Café ทาสที่อยากมาพบกับบรรดาฝูงน้องแมวคงพลาดไม่ได้เลยที่จะมาที่ Kitty Cat Café แห่งนี้ เพราะมีน้องแมวภายใน Café มากถึง 30 ตัว เรียกว่าอยู่กันอย่างหนาแน่นเลยทีเดียว และแมวที่ Café แห่งนี้ยังใจดีเป็นมิตร เข้ากับคนได้ง่ายอีกด้วย ใครที่อยากเจอน้อง ๆตามพิกัดไปได้เลยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขตพระนคร

Mohu Mohu Cat Café ร้านแห่งนี้อยู่ภายในซอยลาดพร้าว 26 เป็น Café แมวที่รวบรวมแมวไทยไว้แทบจะทุกสายพันธุ์ ให้ความน่ารักในแบบแมวไทย ทั้งนี้แมวส่วนใหญ่ใน Café แห่งนี้ทั้งหมดเคยเป็นแมวจรจัดที่เจ้าของร้านไปพบแล้วสงสาร จึงเก็บมาเลี้ยง และธรรมดาของทาสแมวโดยส่วนใหญ่ที่จะเป็นโรคแมวงอก งอกมาเรื่อย ๆมากจนเจ้าของร้านตัดสินใจเปิดเป็น Café แมวแห่งนี้นี่เอง

Makura Cat Café ตั้งอยู่ที่ทางเข้าของตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ ภายในร้านออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น การตกแต่งต่าง ๆเป็นแบบญี่ปุ่นทั้งหมด รวมไปถึงโต๊ะที่นั่งที่ให้บริการลูกค้าก็เป็นโต๊ะเตี้ยสไตล์ญี่ปุ่น และยังมีบรรยากาศที่ดีมากเลยทีเดียว เพราะไม่มีกลิ่นเหม็นใด ๆในร้านเลย บริเวณโดยรอบร้านสะอาดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้รสชาติเครื่องดื่ม และอาหารก็อร่อยอย่าบอกใครเลยทีเดียว

Fat Cat Café Club เจ้าแมวอ้วนขี้อ้อนทั้งหลายถูกรวบรวมมาไว้ที่ Café แห่งนี้ย่านบางซื่อ น้องแมวที่นี่มีความเป็นมิตรกับผู้คนมาก ขี้อ้อนสุด ๆจนทาสที่มาที่ Café แห่งนี้แทบจะทุกคนหลงรักจนอยากจะอุ้มน้องกลับบ้านกันเลยทีเดียว และที่ Café แห่งนี้ยังมีบรรยากาศที่ดีสุด ๆออกแบบตกแต่งในโทนสีไม้ ให้ความรู้สึกสบายตา และยังมีมุมให้ถ่ายรูปได้อีกเพียบเลย พลาดไม่ได้แล้วทาสแมวทั้งหลาย

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ดู E-SPORT

น้ำตกน้ำตกเพลิงหางม้า (Horsetail firefall)

น้ำตกน้ำตกเพลิงหางม้า (Horsetail firefall) ที่สองเเสงสวยงามเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ที่สองเเสงสวยงาม

น้ำตกน้ำตกเพลิงหางม้า (Horsetail firefall) ตั้งอยู่ในอุทยานเเห่งชาติ yosemite

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเเห่งหนึ่งซึ่งมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละประมาณ 3ล้านคนต่อปีเลยทีทีเดียว

เเละได้ถูกจัดให้เป็นมรดกของโลกในปี1984

น้ำตกน้ำตกเพลิงหางม้า (Horsetail firefall) ตั้งอยู่ที่ แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นน้ำตกขนาดเล็กสองสายก่อจะมารวมกันเเป็นสายเดียวไหลลงจากหน้าผาที่มีความสูงทั้งหมดประมาณ 630เมตรที่จะมีน้ำไหลจากน้ำตกเเค่ในช่วงฤดูหนาว เเละน้ำตกเเห่งนี้ นี้มีความพิเศษตรงที่มันสามารถเกิดเเสงสีส้มที่เหมือนเปลวเพลิงออกมาในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น 

การจะไปชมน้ำตกเเห่งนี้ต้องเดินทางจากที่Northside Drive ไปที่จุดตั้งเเค้มที่ต้องเดินทางประมาณ1.5ไมล์หรือประมาณ2.4กิโลเมตรซึ่งจะต้องใช้เส้นทาง SouthsideDrive & El capitan Crossover ในเส้นทางนี้จะมีจุดตั้งเเคมป์หลายจุดที่สามารถรอชมน้ำตกเเห่งนี้ได้

ความสวยงามของน้ำตก Horsetail firefall

นั้นเมื่อเเสงของดวงอาทิตย์ยามตกดินมาสะท้อนสายน้ำที่ไหลลงมาจากน้ำตกจะทำให้เกิดเป็นสายน้ำที่เรืองเเสงเป็นสีส้มดั่งเปลวเพลิงที่สวยงาม เเต่ใช่ว่าการที่มาชมน้ำตกเเห่งนี้เเล้วจะได้เห็นน้ำตกที่เกิดเเสงสีส้มทุกครั้งนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะการที่จะได้เห็น Horsetail firefall ตอนเกิดเเสงนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างเพราะน้ำในลำธารนั้นไม่ได้ไหลลงมาตลอดทั้งปี น้ำเเข็งที่จับตัวกันบนภูเขาจะต้องมากพอที่จะละลายเเล้วไหลลงมาตามร่องลำธารของภูเขา

ถ้าน้ำเเข็งไม่มากพอก็จะไม่มีน้ำไหลลงมา อุณหภูมิในระหว่างวันที่จะต้องสูงพอที่จะละลายน้ำเเข็งที่อยู่บนภูเขา ถ้าอุณหภูมิเย็นเกินไปก็จะไม่ทำให้น้ำเเข็งละลายลงมา เเม้กระทั้งถ้าวันนั้นท้องฟ้าไม่เเจ่มใสมีเมฆมากหรือมีหมอกหนาเเสงจากพระอาทิตย์จะถูกบังทำให้ไม่สามารถส่องมากระทบกับน้ำที่ไหลลงมาได้  ช่วงเวลาที่เเสงจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่ท้องฟ้าเเจ่มใสเท่านั้นเเละมีเวลาให้ชมเเค่ประมาณ10นาทีก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธุ์เท่านั้น

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  Ufabet ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

ทริปกราบขอพรหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

       เนื่องจากวันอาทิตย์นี้สมาชิกทุกคนในบ้านต่างหยุดงานและอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เมื่อคืนวันเสาร์คุณแม่สามีก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นว่าไปเที่ยวไหว้พระกันดีไหม แม่อยากไปวัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่จังหวัดอุทัยธานี เราได้ยินแม่คุยมาอย่างงี้ไม่ตอบตกลงพาไปได้ไง อีกอย่างนึกๆไปเราก็ไม่ได้ไปไหว้ท่านมาหลายสิบปีแล้ว ถือโอกาสนี้พาแม่และทุกคนในครอบครัวของเรา ไปเที่ยวพักผ่อนพร้อมกราบขอพรหลวงพ่อด้วยกันเลย

       เช้าวันอาทิตย์หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ทุกคนพร้อมกันที่รถเวลา 7.00 น. จากนั้นเริ่มล้อหมุนกันเลย จากบ้านเราเลือกเดินทางไปเส้น ภาชี – นครหลวง เพื่อตัดไปถนนสายเอเชีย แต่ยังไปไม่ถึงไหนเพิ่งออกบ้านไป แค่ 10 กว่ากิโล ดันหิวข้าวเช้า สามีเลยพาแวะไปกินข้าวมันไก่ข้างทางกันก่อน อิ่มแล้วจึงเริ่มออกเดินทางต่อ 

      จากถนนสายเอเชีย เราขับรถตรงไปอย่างเดียว ผ่านป้ายจังหวัด  อ่างทอง – สิงห์บุรี- ชัยนาท ก่อนจะเข้าถึง ตัวเมืองอุทัยธานี ให้เราสังเกต ป้ายอำเภอมโนรมย์ (ชัยนาท)   แล้วให้เราเลี้ยวซ้าย ขับรถตรงตามทางไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา ตามข้างทางมีป้ายบอกทางไปวัดท่าซุงเต็มไปหมด ให้ขับรถตามป้ายบอกทางกันไปเรื่อยๆ 

     วัดท่าซุง มีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า วัดจันทาราม  ตั้งอยู่ที่ ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี เมื่อขับรถมาถึงหลายท่านอาจเกิดอาการงง เนื่องจากวัดมีประตูทางเข้าด้วยกันสองฝั่งถนน หากเดินทางมาจากเส้นมโนรมย์ ประตูแรกด้านขวามือที่เห็นจะเป็นทางเข้าไปยังฝั่งวัดเก่า มีมณฑปแก้ว วิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ วิหารหลวงพ่อ 5 พระองค์  ส่วนอีกฝั่งประตูด้านซ้ายถัดจากโรงพยาบาลของวัดจะเป็นทางไป วิหารแก้ว 100 เมตร  วิหารสมเด็จองค์ปฐมสมเด็จองค์ปฐม ปราสาททองคำ และวิหารอื่นๆที่น่าสนใจอีกมาก

      ครอบครัวเราได้เดินทางไปถึง 09.45 น. เนื่องจากยังเหลือเวลาอีกนานกว่าที่วิหารแก้วจะปิด วิหารแก้ว เปิดช่วงเช้า  9.00-11.45 น.  ช่วงบ่าย 14.00-16.00น.  เราจึงเลือกเข้าไปไหว้ฝั่งวัดเก่าก่อน ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที จึงพากันขับรถไปจอดที่ฝั่งวิหารแก้ว 100 เมตร ตรงส่วนนี้นับเป็นไฮไลท์ก็ว่าได้ เพราะคนที่มาส่วนใหญ่จะต้องเข้ามากราบไหว้สรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่บรรจุไว้ในโลงแก้ว  และทิศตรงกันข้ามมีพระพุทธชินราชองค์จำลองที่งดงามมากตั้งอยู่ให้ผู้คนได้ไปสักการะขอพร  ภายในวิหารประดับด้วยแก้วคริสตันสวยงามดั่งคำร่ำลือ

  เสร็จจากตรงนี้ ขับรถไปเที่ยวชมความงามของปราสาททองคำและวิหารอื่นๆในบริเวณวัดกันต่อ พอใกล้เที่ยงก่อนจะเดินทางกลับก็พากันไปแวะกินข้าวที่ร้านอาหารป้าสำราญ อาหารอร่อย วิวดีเพราะมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา  กินข้าวอิ่มกันแล้ว พากันขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ เราแอบมองมาเบาะคนนั่งหลัง จะเห็นแม่สองแม่คุยกันยิ้มแย้มมีความสุขหัวเราะกันตลอดทางเลย