เที่ยว 5 เกาะที่สวยที่สุดและนิยมมาเที่ยวพักผ่อน 

1.เกาะขาม  อยู่ไม่ไกลจาก กรุงเทพ เดินทางมาได้ง่ายไม่ลำบาก  เที่ยว 5 เกาะที่สวยที่สุด มีเรือให้บริการเข้าเกาะได้ง่าย  แต่อาจจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะเป็นเขตของการดูแลทหาร    มาได้ทุกวัน  เกาะขามเป็นสถานที่จะไม่มีที่พัก ณ  ที่เกาะเลย   นักท่องเที่ยวคือได้แค่มาเที่ยวชม ถ่ายรูปได้แค่นั้น มีเวลาเปิด  ปิด ตามเวลาตามกำหนด    ที่นี้น้ำทะเลใส   ดำน้ำ ดูปาการังได้  มีเจ้าหน้าที่ผู้เชียวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด   

2.เกาะไผ่   ก็อยู่ที่ ชลบุรี  ไม่มีที่พักแบบนอนค้างคืน เหมาะสำหรับการมาเที่ยวถ่ายรูปาเช้า เย็นกลับประมาณนี้  เกาะนี้น้ำใส เกาะก็สวย  ใต้ท้องทะเลก็อุดมสมบูรณ์   ทางกองทัพเรือดูแลอย่างดี ไม่ให้เสียระบบนิเวศใต้น้ำสัตว์จึงมาว่ายเวียนให้เห็นใต้ท้องทะเล   น้ำใสมองเห็นปลาได้ชัดเจน บอกเลยค่ะว่าที่นี้เป็นเกาะสวยมากๆ ชวนคนรู้ใจมาสัมผัสบรรยากาศริมทะเล  อาบแดด  กัน

3.เกาะเสม็ด  ชื่อนี้เชื่อว่าใคร ก็เคยได้ยินติดหนาหูแน่นอน  บอกได้เลยว่ามันสวยงามจริงๆ ใครไม่มาถือว่าพลาดมาก  มาถึงแล้ว ณ เกาะเสม็ดแล้วนั้นก็ยังมีอีกหลายสถานที่ให้มาเช็คอินถ่ายรูปได้เยอะมากๆ  น้ำใส ทะเลสวย  หาดทรายขาวละเอียดนุ่มละมุนเท้าที่สุด  ใครที่กำลังมีแพลนจัดมาเลยค่ะเที่ยวเกาะเสม็ด  สวยงามละลานตาตามคำเล่าลือแน่นอน 

4.เกาะช้าง อยู่จังหวัดตราด  ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ประมาณ 4- 5 ซม   มีเรือข้ามไปยังเกาะช้างให้บริการ ใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 30  นาที  ใครตั้งใจมาเที่ยวนี้ก็มาตั้งแต่เช้าหน่อยจะได้ใช้เวลาท่องเที่ยวเกาะได้นาน และคุ้มกับวันหยุด  มาเที่ยวช่วงหน้าร้อน เหมาะมาก  ชวนเพื่อน ครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนสมองกัน  มีกิจกรรมให้ได้สนุกกันมากมายรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน  อาหารของกินก็มรพร้อมให้บริการอีกด้วย    

5.เกาะกูด  อีกสถานที่หนึ่งที่น้ำทะเล ใส๊ใส  ไม่ไกลมากเท่าไหร่ ใช้เดนทางไม่มากนักมาที่จังหวัดตราด   น้ำทะเลที่ใส หาดทรายขาว  เหมือนเราพาตัวเองไปยังเมาดีฟเลยก็ว่าได้ ไม่แฮปปี้ได้ไง  กับเกาะที่นี้  มีมุมและสถานที่ให้เราได้แวะถ่ายรูปเยอะมากๆ   บอกเลยได้รูปเป็นร้อยเป็นพันรูปแน่นอน  และยังสามารถดำนำดูปากะรังได้   บรรยากาศก็สุดฟิน   เงียบสงบ

นักท่องเที่ยวไม่เยอะ วุ่นวาย   มีอีกหลายสถานที่ให้ได้ไปเช็คอินเช่นกัน    เพิ่มเติมกว่านั่นยังสามารถเช่าจักรยานปั่นชมวิว หรือจะปั่นชมธรรมชาติและรอดูพระอาทิตย์ตกดิน แสงสี จะสวยขนาดไหน อาหารและเครื่องดื่มก็มีให้เลือกสรรกันเยอะแยะมากมาย  แต่ราคาก็อาจจะดูแตกต่างจากที่อื่นนิดหนึ่ง  เพราะอาจจะด้วยที่อยู่เกาะเป็นแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว  มาเยอะก็แชร์กันก็ประหยัดได้นะค่ะ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    Ufabet เข้าสู่ระบบ

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจินยังตกอยู่ในความเสี่ยงอีกครั้งในพิลบารา

 แต่การท่องเที่ยวสามารถช่วยปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของออสเตรเลียได้ แอปพลิเคชันจาก Traditional Owners เพื่อบล็อกการก่อสร้างโรงงานปุ๋ยใกล้กับศิลปะหินโบราณใน Pilbara ถูกปฏิเสธโดยรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลาง Tanya Plibersek ในสัปดาห์นี้ การตัดสินใจครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่ง และชี้ให้เห็นปัญหาที่ใหญ่กว่ามากกับการจัดการมรดกของชนพื้นเมือง

Plibersek กล่าวว่าเธอเห็นด้วยกับมุมมองของ Murujuga Aboriginal Corporation ในการตัดสินใจของเธอ โดยเรียกมันว่า “องค์กรที่เป็นตัวแทนมากที่สุดด้านความรู้ทางวัฒนธรรม”

ในภูมิภาค กระนั้น เธอยังรับทราบด้วยว่ามุมมองเหล่านี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเจ้าของดั้งเดิมทั้งหมดในพื้นที่ บันทึก Songlines ของเรา ซึ่งเป็นองค์กรแยกต่างหากของเจ้าของดั้งเดิม Murujuga คัดค้านโรงงานปุ๋ย ซึ่งพวกเขากล่าวว่าเป็นภัยคุกคามต่อสถานที่จัดแสดงศิลปะหินศักดิ์สิทธิ์ พวกเขากล่าวว่าการตัดสินใจของรัฐมนตรี “อยู่บนพื้นฐานของเหตุผลที่ผิดพลาดและข้อสรุปที่ผิดพลาด”

ในปี 2020 โลกแสดงปฏิกิริยาด้วยความสยดสยองเมื่อริโอ ตินโต ทำลายหุบเขาจูคาน ซึ่งเป็นที่พักพิงของหินศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจินในพิลบาราซึ่งมีอายุประมาณ 46,000 ปี ความเข้าใจในวงกว้างของชุมชนเกี่ยวกับคุณค่าของความรู้ของชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรสในการดูแลประเทศสามารถช่วยให้เราหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้ การท่องเที่ยวและการศึกษาของชุมชนเป็นวิธีที่สำคัญในการทำเช่นนั้น พอคือพอ

โรงงานปุ๋ย Perdaman มูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียจะถูกสร้างขึ้นในอุทยานแห่งชาติ Murujuga ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นมรดกโลกในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นที่ตั้งของแกลเลอรีศิลปะร็อคที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีภาพมากกว่า 1 ล้านภาพกระจายอยู่ทั่วคาบสมุทร Burrup และหมู่เกาะ Dampier ไซต์ศักดิ์สิทธิ์อาจได้รับผลกระทบจากโรงงานมากถึง 20 แห่งตามที่ Save Our Songlines

Rio Tinto เพิ่งทำลายสถานที่ดั้งเดิมของชาวอะบอริจิน นี่คือเหตุผลที่ได้รับอนุญาต ในการให้สัมภาษณ์กับ ABC Radio National บริษัท Plibersek กล่าวว่า Murujuga Aboriginal Corporation ได้ตกลงกันว่างานแกะสลักหินเหล่านี้บางส่วนสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย และงานอื่นๆ สามารถป้องกันได้แม้โรงงานจะดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังไม่ชัดเจนนัก ตัวอย่างเช่น ABC เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า Murujuga Aboriginal Corporation ปฏิเสธที่จะอนุญาตให้ย้ายไซต์ศิลปะร็อคหลายครั้ง โดยเลือกที่จะไม่ถูกรบกวน ในที่สุดผู้อาวุโสก็เห็นด้วยหลังจากได้รับคำแนะนำว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราพบปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการปรึกษาหารือกับเจ้าของดั้งเดิม เช่น ในระหว่างการต่อสู้ที่ฉาวโฉ่เพื่อคิมเบอร์ลีย์กับโรงงานก๊าซขนาดใหญ่ในปี 2555

เจ้าของดั้งเดิมและผู้เขียนร่วม Clinton Walker ได้แบ่งปันความรู้ที่ใกล้ชิดของเขาเกี่ยวกับ Pilbara กับผู้เยี่ยมชมผ่านกิจการท่องเที่ยวของเขา Ngurrangga Tours ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา เขามีอำนาจทางวัฒนธรรมและความสามารถในการพูดเพื่อประเทศของเขา คลินตันเป็นผู้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกจากเจ้าของดั้งเดิมและผู้ดูแลของ Murujuga เกี่ยวกับภัยคุกคาม

ต่อมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่ เขาอธิบายผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของโรงงานปุ๋ย เนินเขานี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับประชาชนของฉัน หากพวกเขาสร้างโรงงานของพวกเขาที่นี่ เราก็จะไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมศิลปะร็อคของเราและสอนเด็ก ๆ และครอบครัวของเราเกี่ยวกับวัฒนธรรมของพวกเขา ผลกระทบนี้จะทำลายวัฒนธรรมของเราและจะทำลายเราในฐานะเจ้าของดั้งเดิมเนื่องจากเราเชื่อมต่อกับไซต์เหล่านี้ในทางจิตวิญญาณ ฉันต้องการให้ผู้คนรู้ว่าไซต์เหล่านี้มีความสำคัญเพียงใด เราจำเป็นต้องปกป้องพวกเขา พอคือพอ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  Ufabet เข้าสู่ระบบ

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตรอบวัดอาซากุสะ ประเทศญี่ปุ่น

      เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นต้องเคยเดินทางไปเที่ยวที่วัดอาซากุสะกันบ้างแล้วและแน่นอนว่าความสวยงามภายในสถานศึกษานั้นเป็นแหล่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยว วัดอาซากุสะ แต่หลังจากที่มีการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว

อย่าลืมว่าบริเวณด้านนอกของวัดอาซากุสะนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายเต็มไปหมดเลยทีเดียวซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณโดยรอบหน้าวัดอาซากุสะซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวที่วัดอุตสาหะให้ทราบกัน

       เมื่อนักท่องเที่ยวออกมาจากบริเวณ วัดอาซากุสะ จะเห็นได้ว่าจะมีชาวเมืองญี่ปุ่นนั้นมีการสร้างบ้านและมีการเปิดร้านขายของซึ่งจะมีหลายซอยมากโดยแต่ละซอยนั้นก็จะมีการนำของต่างๆมากมายมาวางขายไม่ว่าจะเป็นร้านขายขนมหรือร้านขายของที่ระลึกและของฝาก  ซึ่งของที่ถูกนำมาวางขายนั้นก็จะเป็นสินค้าที่เป็นเครื่องรางของขลังของภายในวัดอาซากุสะและยังมีของที่ระลึกที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเราเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นนอกจากนี้ขนมบริเวณพื้นที่ดังกล่าวก็ยังอร่อยมากมายอีกด้วย

       ขนมที่ขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวหลายคนที่เดินทางมาเที่ยวตรงบริเวณวัดอาซากุสะไม่ควรที่จะพลาดลองแวะชิมนั้นก็คือเมล่อนปังนั่นเองซึ่งที่นี่บอกได้เลยว่าเป็นจุดไฮไลท์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะมาที่นี่กันเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะขนมที่นี่อร่อยมากทำสดใหม่ๆและวางขายทันทีที่สำคัญลูกค้าเยอะแยะมากมายที่มารอคิวเข้าแถวในการซื้อเมล่อนต่างกันโดยเนื้อขนมปังนั้นนุ่มมากๆบอกได้เลยว่าอร่อยแบบสุดๆไปเลย 

    นอกจากนี้ใกล้กับวัดอาซากุสะยังมีวัดอีกแห่งหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าอยู่ใกล้กับวัดอาซากุสะสามารถและสถานที่ท่องเที่ยวภายในวัดนั้นก็สงบร่มเย็นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวด้วยวัดดังกล่าวนั้นชื่อว่าวัดเซ็นโซจิซึ่งวัดแห่งนี้นั้นจะมีการจัดงานบ่อยมากและเป็นวัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโตเกียวโดยจะมีการจัดงานเทศกาลใหญ่ๆหลายขึ้นอยู่บ่อยครั้งนั้นเอง

      ซึ่งนักท่องเที่ยวนั้นสามารถมาเพิ่มเพลินภายในงานของวัด เซนโซจิแห่งนี้ได้โดยภายในงานนั้นจะมีการจัดขึ้นตั้งแต่หัวค่ำยันถึงรุ่งเช้าเรียกได้ว่าที่นี่นั้นเป็นสถานที่ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันอย่างมากเลยทีเดียวเพราะมีทั้งร้านค้าที่นำของมาวางขายและยังมีอากาศที่สงบและร่มเย็นเป็นอย่างมากอย่างที่เรารู้กันดีว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นอากาศไม่ร้อนมากดังนั้นไม่ว่าคุณจะไปในช่วงฤดูไหนอากาศก็ยังสดชื่นเย็นสบายสำหรับคนไทยนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ

Kampong Ayer ประเทศบรูไน

           สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปเที่ยวด้วยการเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศบรูไนในครั้งนี้นั้นเราจะพาไปรู้จักหมู่บ้านที่ได้รับสมญานามว่าเป็นเวนิสแห่งตะวันออกสาเหตุที่ทำให้ผลเปรียบเทียบสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ว่าเป็นเวนิสแห่งตะวันออกนั่นก็เพราะว่าที่นี่นั้นเป็นหมู่บ้านกลางน้ำโดยมีแม่น้ำล้อมรอบหมู่บ้านนอกจากนี้หมู่บ้านกลางน้ำที่นี่ยังเป็นหมู่บ้านกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกใหญ่กว่าเวนิสของประเทศอิตาลีเสียอีก

       สำหรับหมู่บ้านกลางน้ำแห่งนี้นั้นมีชื่อเรียกว่าหมู่บ้านกัมปง ไอเยอร์ ( Kampong Ayer  ) โดยหมู่บ้านแห่งนี้นั้นยังคงรักษารูปแบบการใช้ชีวิตดั้งเดิมแบบโบราณของคนประเทศบรูไนเอาไว้ดังนั้นที่นี่จึงไม่เรียกว่าเป็นสถานที่สำหรับอนุรักษ์วิถีชีวิตของคนบรูไนอย่างแท้จริงดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวในลักษณะแบบนี้อยากจะไปเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านของประเทศบรูไนรับรองว่าคุณเดินทางมาที่หมู่บ้านKampong Ayer  รู้จักคนบรูไนมากขึ้นเลยทีเดียว

        เนื่องจาก Kampong Ayer  แห่งนี้นั้น อยู่ท่ามกลางแม่น้ำดังนั้นการเดินทางของชาวบ้านที่นี่จึงใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเพียงเท่านั้นโดยคำกล่าวที่ว่า Kampong Ayer  คือหมู่บ้านกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลกนั้นไม่ได้กล่าวเกินจริงเนื่องจากว่าหมู่บ้านแห่งนี้นั้นมีคนอาศัยอยู่เกินกว่า 3หมื่น คนเลยทีเดียวในขณะเดียวกัน หมู่บ้านกลางน้ำแห่งนี้ก็มีการแบ่งเป็นหมู่บ้านเล็กเล็กย่อยย่อยอีกมากมายหลายหมู่บ้านโดยรวมแล้วมีอยู่ประมาณถึง 42 หมู่บ้านด้วยกัน 

        นอกจากนักท่องเที่ยวจะเห็นเกี่ยวกับเรื่องของการใช้ชีวิตของชาวบรูไนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้แล้วยังจะได้เห็น สร้างรวมถึงสถาปัตยกรรมที่มีการสร้างเอาไว้นับตั้งแต่ในสมัยโบราณโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างบ้านเรือนซึ่งต้องสร้างอาศัยไว้กลางน้ำโดยจะมีการสร้างบ้านมาจากไม้นำไม้มาเป็นเสาสำหรับค้ำยันพื้นบ้านผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้จะมีการปลูกบ้านติดกันและยังมาว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะเป็นหมู่บ้านที่ปลูกกลางน้ำแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็นทีวีหรืออินเทอร์เน็ตเรียกได้ว่าหมู่บ้านกลางน้ำที่นั้นไฟฟ้าเข้าถึงแล้ว ถึงว่าหมู่บ้านเหล่านี้จะเหมือนกับการอยู่ของชาวชนบทแต่สิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านนั้นครบครันมากเลยทีเดียว 

         นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้เพลิดเพลินกับอาหารการกินที่เป็นของคนท้องถิ่นโดยตรงซึ่งรสชาตินั้นอร่อยมากที่สำคัญน้ำชา ของหมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นชื่อ เรื่องของความอร่อยมากที่สุดนั่นเอง 

      ดังนั้นที่  Kampong Ayer ถึงแม้จะไม่ได้ดูหรูหราไม่มีสิ่งก่อสร้างที่เป็นทองคำแสดงถึงความร่ำรวยของคนบรูไนแต่ที่นี่เป็นสถานที่ที่คนบรูไนอนุรักษ์เอาไว้ว่าในอดีตนั้นชาวเมืองใช้ชีวิตกันอย่างไรมีความเป็นอยู่ยังไง และสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของชาวบรูไน ในสมัยอดีตกาลได้อย่างแท้จริง      

 

สนับสนุนโดย    Ufabet เข้าสู่ระบบ

น้ำตกตาดกวางสี  ประเทศลาว

          ที่ประเทศลาว ในเขตพื้นที่หลวงพระบาง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นชาวลาวโดยตรงหรือแม้แต่ชาวต่างชาติที่ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่หลวงพระบางแล้วล่ะก็จะต้องมีการแวะเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้กันทุกคนอย่างแน่นอน 

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นเป็นน้ำตกที่บอกได้เลยว่าสวยงามมากที่สุดในประเทศลาวเลยก็ว่าได้และยิ่งในพื้นที่หลวงพระบางแล้วก็ไม่มีน้ำตกที่ไหนที่จะงดงามเท่านี้มาก่อนเลยทีเดียว   โดยน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่มีความงดงามและมีความใสมากซึ่งตัวน้ำตกนั้นจะเป็นลักษณะของหินปูนขนาดใหญ่ที่มีความสูงลดหลั่นกันลงมาจากภูเขาโดยน้ำตกจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกันโดยแต่ละชั้นนั้นจะมีความเหลื่อมล้ำกันระหว่างโขดหินของหินปูนซึ่งมีความสูงชั้นละประมาณ 15 เมตร 

         เมื่อคุณได้มาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้จะเห็นน้ำตกที่ไหลจากที่สูงแล้วกระเด็นโดนหินปูนตกลงสู่ที่ต่ำซึ่งจะมีน้ำมากมายมหาศาลที่ไหลลงมาโดยน้ำตกนั้นจะเป็นน้ำตกที่มีความสูงชันโดยมีแนวความสูงเป็นแบบเส้นตรง 90 องศาเลยทีเดียวด้านล่างก็จะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่หากวันไหนที่พึ่งมีฝนตกใหม่ๆแล้วเราก็อาจจะได้เจอกับรุ้งกินน้ำก็เป็นไปได้สำหรับน้ำตกนี้มีชื่อเรียกว่าน้ำตกตาดกวางสี     

        ตรงบริเวณด้านล่างของตัวน้ำตกนั้นเจ้าหน้าที่จะมีการสร้างสะพานเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ข้ามแบ่งน้ำด้านล่างสุดของบริเวณน้ำตกซึ่งสะพานนี้ถ้าหากคุณเดินไปตรงกลางสะพานคุณจะสามารถถ่ายภาพน้ำตกตรงบริเวณที่มีการตกของฉันน้ำตกลงมาเป็นภาพที่งดงามมากเลยทีเดียวซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาข้ามสะพานแห่งนี้เพื่อมาถ่ายรูปน้ำตก 

          อย่างไรก็ตามน้ำตกแห่งนี้สามารถที่จะลงเล่นน้ำได้ซึ่งน้ำแต่ละโซนนั้นจะมีความลึกความตื้นแตกต่างกันออกไปและทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลน้ำตกนั้นยังไม่มีการเตรียมสถานที่เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับอาหารการกินโดยที่นี่จะมีการเตรียมร้านอาหารไว้คอยบริการลูกค้าหรือถ้าใครอยากจะติดก็สามารถใช้บริการที่ร้านกาแฟได้เช่นเดียวกันหากใครที่ชื่นชอบอยากจะนอนอ่านหนังสือเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติแบบชิวๆก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

     สำหรับน้ำตกตาดสีนี้เป็นน้ำตกที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากดังนั้นถ้าเป็นในช่วงวันเสาร์อาทิตย์จะมีผู้คนเดินทางไปเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้กันค่อนข้างเยอะมากถ้าคุณต้องการเที่ยวแบบเป็นส่วนตัวสามารถไปเที่ยวที่น้ำตกตาดสีได้ในช่วงวันธรรมดา 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    Ufabet เข้าสู่ระบบ