ท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี

จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นตั้งอยู่ทางฝั่งภาคใต้ของประเทศไทย จังหวัดนี้นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องทะเลสวย เงาะอริ่ย หอยใหญ่ ไข่แดงอร่อยแล้วนั้น จังหวัดนี้ยังมีอะไรที่มากกว่าด้วย โดยส่วนมากแล้วนั้นจังหวัดทางภาคใต้มักนิยมเที่ยวช่วงต้นปีเนื่องจากจะไม่เคยเจอฝนมากนัก เพราะหากไปในฤดูฝนนั้นฝนจะตกหนักอย่างมากอาจจะทำให้การท่องเที่ยวไปยังในสถานที่ต่างๆไม่สะดวกนั่นเอง

สำหรับบคนที่ชอบธรรมชาตินั้นที่แห่งนี้ในจังหวัดสุราฎร์ธานีไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน คือป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด สถานที่แห่งนี้นั้นเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแต่จะต้องมีการเสียค่าบัตรเข้าชมเพื่อใช้เป็นเงินในการบำรุงสถานที่แห่งนี้นั่นเอง และสัญลักษณืที่โดดเด่นของที่นี่นั้นก็คือปูทูลกระหม่อม ซึ่งปูเหล่านี้นั้นจะออกมาและชุกชุมมากในช่วงหน้าฝนทำให้ชาวบ้านยกให้เจ้าปูตัวนี้เป็นพระเอกของที่นี่นั่นเอง และเมื่อเดินเข้าไปข้างในก็จะได้สัมผัสกับบ่อน้ำที่น้ำนั้นมีสีฟ้าใสมาก

ใสจนเห็นตัวปลาเลยทีเดียว และบ่อน้ำนี้ยังมีการแบ่งโซนออกเป็นสองส่วนด้วยจะมีทั้งโซนที่สามารถลงเล่นน้ำและแช่น้ำได้และอีกโซนจะไม่สามารถลงเล่นน้ำได้นั่นเองซึ่งถือว่าบ่อน้ำที่ไม่สามารถลงเล่นได้นั้นเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยบ่อน้ำศักด์ที่ว่านี้นั้นจะเป็นบ่อน้ำไว้สำหรับใช้กินและมีการประกอบพิธีกรรมต่างๆตามความเชื่อของคนที่นี่ และภายในป่าต้นน้ำนั้นนอกจากจะมีบ่อน้ำมราสวยงามให้ลงเล่นน้ำแล้วนั้นยังเอาใจสายชิลที่มาอยากเปียกทางป่าต้นน้ำนั้นก็มีกิจกรรมพายเรือให้บริการอีกด้วย มาที่เดียวถือว่าคุ้มมากได้ทั้งเที่ยวชมความงามของธรรมชาติ แช่น้ำเย็นๆ พายเรือชิวๆ

ซึ่งสามารถมาได้ตั้งแต่เช้าและอยู่จนถึงตอนเย็นเลยเพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย

เขื่อนรัชชประภาหรือที่เค้าเรียกกันว่าเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งถือว่าสถานที่แห่งนี้เป็นUnseen Thailandเลยทีเดียว เพราะความงดงามของสถานที่แห่งนี้นั้นทำให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยากที่จะมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง เพราะสถานที่แห่งนี้นั้นมีเขาหินปูนที่สลับซับซ้อนกันไปมาตัดกับสีเขียววของต้นไม้ สีท้องฟ้า และสีน้ำทะเลที่เป็นสีเขียวมรกต รวมกันได้อย่างลงตัวมากๆ

โดยเขื่อนนี้นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสำหรับใช้เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่ใช้ทำกิจกรรมต่างๆของจัวหวัดและของภาคใต้ด้วยและสถานที่แห่งนี้นั้นยังได้รับฉายากุ้ยหลินเมืองไทยด้วยเพราะความสวยที่โดดเด่นทำให้ได้รับฉายานี้นั่นเอง และหลักๆนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวก็มักจะนิยมทำกิจกรรมต่างๆรอบๆเขื่อนไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมดำน้ำ นั่งเรือชมเขื่อนลถ่ายรูปเช็คอินเก๋มากๆ โดยส่วนใหญ่ที่มานั้นทุกคนต้องมีรูปนั่งหรือยืนบนหัวเรือกับเขาสามเกลอวที่เป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนนั่นเอง สำหรับคนที่มาเที่ยวสุราษฎร์ธานีแล้วนั้นก็จะไม่พลาดการมาที่นี่เลยทีเดียว

แนะนำแพที่พักที่เขื่อนเชี่ยวหลาน

  1. แพสายชลสำหรับที่ใครที่ชื่นชอบที่พักที่เน้นความเป็นธรรมชาติที่นี่จะมีการตกแต่งแพที่พักเป็นสไตล์ไม้ไผ่ซึ่งแผลจะรออยู่ริมเขื่อนเชี่ยวหลานดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาพักที่นี่จะสามารถมองเห็นวิวของเขื่อนและพวกเขาได้แบบ 360 องศารวมถึงที่นี่มีการตกแต่งที่พักเป็นแนวบังกะโลเป็นที่พักที่มีความสวยงามและเงียบสงบเป็นอย่างมากกับการมานอนพักผ่อนกับคนรักหรือคนในครอบครัวก็ต้องขอบอกว่าสำหรับที่นี่แล้วคุณจะต้องมีการโทรจองล่วงหน้าเพราะที่นี่มักจะมีคิวเต็มข้ามปีกันเลยทีเดียว     
  2. แพเพลินไพร สำหรับที่พักที่นี่จะมีการทำเป็นห้องพักซึ่งรองรับได้ห้องละสองคนหรือสี่คนแต่ถ้าอยากได้ห้องขนาดใหญ่ก็สามารถแจ้งความจำนงได้ซึ่งจะมีที่พักที่สามารถรองรับได้ถึง 20 คนด้วยกันโดยที่นี่จะเน้นกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งว่ายน้ำเดินป่าส่องสัตว์ดูนกตกปลาพายเรือคายัครวมถึงมีกิจกรรมยามค่ำคืนให้ไปชมครั้งข่าวอีกด้วยสำหรับที่นี่รองรับลูกค้าได้แค่เพียง 150 คนเท่านั้นเป็นที่พักขนาดเล็กแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเพราะมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างหากใครสนใจสามารถโทรจองที่พักได้ก่อนเดินทาง
  3. แพคีรีวารินสำหรับที่นี่เป็นที่พักที่มีการนำแพมารออยู่กลางแม่น้ำซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเห็นวิวของเขื่อนได้อย่างชัดเจนและสวยงามโดยห้องพักที่นี่จะเน้นความเป็นธรรมชาติซึ่งหลังคาของห้องพักจะทำมาจากจากโดยจะมีการตกแต่งบ้านพักให้มีความสวยงามส่วนการท่องเที่ยวที่นี่จะเน้นให้ทำกิจกรรมพายเรือขยะแล้วพาไปท่องเที่ยวหรือความงามของสันเขื่อนด้วยอาหารของที่นี่จะเน้นเป็นอาหารท้องถิ่นอาหารใต้ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนที่ได้ชิมต่างก็ต้องยกนิ้วให้
  4. แพ 500 ไร่ สำหรับที่นี่เป็นที่พักที่ขึ้นชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวว่าเป็นที่พักที่สวยที่สุดของเขื่อนเชี่ยวหลานเลยก็ว่าได้ที่นี่เทียบได้กับโรงแรมระดับห้าดาวเลยทีเดียวนอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจรแล้วที่นี่ยังมีที่พักรองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและยังมีสระสำหรับว่ายน้ำกลางเขื่อนเชี่ยวหลานรวมถึงยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำไม่ว่าจะเป็นล่องเรือดูนกล่องเรือชมวิถีชีวิตของสัตว์ป่าหรือแม้แต่เดินป่าเยี่ยมชมความงามของถ้ำหรือแม่จะพาไปเที่ยวน้ำตกแต่สำหรับที่นี่หาใครจะมาจะต้องมีการจองล่วงหน้าและค่าที่พักค่อนข้างมีราคาสูง
  5. เรือนแพของอุทยานแห่งชาติสำหรับที่นี่ทางกรมอุทยานแห่งชาติได้มีการทำสำรองที่พักไว้ให้นักท่องเที่ยวซึ่งได้ชื่นชมกับความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริงเพราะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเขื่อนเชี่ยวหลานที่ราคาไม่แพง

ไปเที่ยวรับลมหนาวที่ไหนได้บ้าง ?

พากันไปฟินรับลมเย็น สถานที่ 1 ใน 5 ไร่ชาวิวงามของประเทศไทยที่หนาวนี้ไม่สมควรพลาด ไปสู่ฤดูหนาว ธันวาคมนี้ เป็นเดือนที่การพักผ่อนหย่อนใจการท่องเที่ยว รวมทั้งวันหยุดของใครๆอีกคนไม่ใช่น้อยเมื่ออากาศหนาวมาเช้าใจกันว่าผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็คงจะต้องการไปเกี้ยวเหนือกันถ้วนหน้าเพื่อที่พวกเราจะได้ท่องเที่ยวสัมผัสกับธรรมชาติที่งามๆอากาศเย็นๆอันแสนบริสุทธิ์พอใช้ได้สูดอากาศเย็นๆฟินทำให้มันรู้สึกชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวยหัวใจทั้งเผื่อฟลุ๊คได้ดูทิวทัศน์ทะเลหมอกงามๆก็เป็นได้ 

ซึ่งนอกเหนือจากการที่พวกเราได้ไปขึ้นภูเขาดูดอกไม้นานาพรรณแล้วก็ทะเลหมอกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมยอดนิยมสำหรับนักเดินทางหลายๆกรุ๊ปซึ่งก็คือ “ไร่ชา”ซึ่งในประเทศไทยของพวกเรานั้นยังมีไร่ชาที่ขึ้นชื่อลือชามีช่ือเสียงมากไม่น้อยเลยทีเดียวอีกหลายที่มากมายดังที่เพจรีวิวท่องเที่ยวได้เคยเอามาลงกันไว้เยอะมากและก็ไรชาแต่ละที่นั้นก็จะปลูกชาเรียงกันเป็นขั้นบันไดที่ให้พวกเราสามารถถ่ายภาพออกมาได้งามแล้วโน่นพวกเราก็ยังสามารถลองชากลิ่นหอมหวนๆได้อีกด้วย 

สำหรับฤดูหนาวนี้ผู้ใดกันแน่ที่ยังไม่แพลุกลี้ลุกลนว่าจะท่องเที่ยวไหนดีพวกเราก็ได้มีไรชาทั้งสิ้นอีก 10 ที่ มาเผื่อไว้ให้เป็นตัวเลือกสำหรับหนาวนี้กัน ไร่ชา บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทางพวกเราจะมาขอเริ่มกันที่ ไร่ชาบ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 

ไร่ชาที่นี้อยู่ที่ หมู่บ้านรักไทย หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า บ้านแม่ออเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่กึ่งกลางท่ามกลางช่องเขา ตั้งอยู่กลุ่มที่ 6ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนไรช่าอยู่ห่างจากเมืองราวราว 44 กม.เป็นหมู่บ้านท้ายที่สุดก่อนจะถึงชายแดนของเมืองไทยรวมทั้งเมียนมาร์

ซึ่งในสมัยก่อนสุานที่ที่นี้เคยเป็นหมู่บ้านของคนจีนยูนนานแต่ว่ามาเดี๋ยวนี้ได้แปลงเป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวยอดฮิตของนักเดินทางอีกทั้งคนประเทศไทยและก็ชาวต่างประเทศกันจำนวนมากฤดูหนาวนี้เว้นแต่พวกเราจะได้การฟินกับอากาศที่เย็นๆบรรยากาศดีๆของไร่ชาที่เขียวชะอุ่มมองดูไปไกลสุดตาแล้วนั้น

สถานที่ที่นี้ยังโอบล้อมไปด้วยทิวเขาแล้วก็พันธุ์พืชต่างๆอีกหลายประเภท โดยยิ่งไปกว่านั้นพืชเมืองหนาวทั้งยังรอบๆหมู่บ้านรักไทยยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และก็ทะเลสาบที่สวยสดงดงาม ที่พวกเราสามารถไปนั่งจิบชาอุ่นๆแก้หนาว มองดูแผ่นน้ำอันกว้างเพียงแค่กล่าวก็ยังสัมผัสได้ถึงอากาศดีๆเย็นๆสุดฟินแล้ว

พาเที่ยวป่าแห่งความมืด

พาเที่ยวป่าแห่งความมืด เดอะ ดาร์ก เฮดจ์ 

        สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่เคยเดินทางไปประเทศไอร์แลนด์เหนือเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรื่องของความสวยงามและความน่ากลัวอยู่ในที่แห่งเดียวกันสถานที่แห่งนั้นก็คือเดอะ ดาร์ก เฮดจ์ ซึ่งเค้าว่ากันว่าหากว่าคุณไปเที่ยวในตอนกลางวันคุณจะพบกับความสวยงามของธรรมชาติที่มีต้นไม้ล้อมรอบมีลมพัดผ่านแต่ถ้าหากคุณไปสถานที่แห่งนี้ในตอนกลางคืนคุณจะเหมือนกับการเดินเข้าไปดินแดนที่มีแต่ความลึกลับและดูน่ากลัวซึ่งอันที่จริงแล้วสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมามีอายุหลาย 100 ปี

แล้วซึ่งคนที่สร้างได้มีความคิดอยากจะให้ทางเดินตรงที่แห่งนี้มีความสวยงามเขาจึงได้ทำการปลูกต้น Beach เอาไว้ริมทางทั้งสองฝั่งซ้ายและขวาเป็นระยะทางยาวถึงกิโลครึ่งซึ่งเวลาผ่านไปจากต้นไม้ต้นเล็กๆจึงกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ต้นไม้แต่ละต้นปัจจุบันอายุมีตั้งแต่ 300 ปีขึ้นไปดังนั้นถนนสายนี้จึงถือได้ว่าเป็นถนนที่มีความเก่าแกติดอันดับโลกเลยทีเดียวแต่ไม่ใช่ว่าถนนแห่งนี้จะเป็นถนนสายตรวจสายประวัติศาสตร์เท่านั้นแต่ที่ถนนแห่งนี้ยังมีความน่าทึ่งของความแตกต่างกันระหว่างทั้งวันและทั้งคืนเป็นอย่างมาก

หากใครได้มาเที่ยวในเวลากลางวันจะเห็นความงดงามดั่งเทพนิยายของถนนสายนี้ใครที่เคยได้ดูฉากในหนังภาพยนตร์หรือแม้แต่ในการ์ตูนจะเห็นว่าจะมีฉากที่เป็นถนน ที่มีความยาวสุดลูกหูลูกตาในขณะเดียวกันก็มีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่สองข้างทางปลุกติดต่อกันเป็นทิวแถวแพกิ่งก้านสาขาป้องกันแสงแดดไม่ให้กระทบลงมาถึงพื้นดินเหมือนเราเป็นอลิซไปเดินในดินแดนแห่งมหัศจรรย์เลยทีเดียวแต่คนชื่อหรือไม่ว่าในสถานที่ที่โยชื่นชมว่ามีความสวยงามแห่งนี้ถ้าเรามาเดินในตอนกลางคืนแล้วแล้วก็มันจะกลับกลายเป็นสถานที่ที่มีความน่ากลัวเป็นอย่างมาก

เหมือนกับว่าเรากำลังเดินเข้าไปยังประสาทของแม่มดเพื่อไปช่วยเจ้าหญิงให้หลุดผลจากคำสาปด้วยความที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มีลักษณะที่แตกต่างกันสุดขั้วระหว่างทั้งวันและทั้งคืนทำให้ผู้คนนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อมาทดลองโดยความแตกต่างนี้กันเป็นจำนวนมากและที่นี่ในตอนกลางวันเรามักจะเห็นผู้คนมาถ่ายรูปหรือมาวาดภาพส่วนในตอนกลางคืนนั้นฉันมีหนังหลายเรื่องที่มาถ่ายทำกันที่นี่เป็นแนวหนังสยองขวัญหรือแนวเทพนิยายอย่างเรื่องเบลกับเจ้าชายอสูรและถ้าหากคุณอยากรู้ว่าทำไมคนทั่วทั้งโลกถึงพากันมาเที่ยวที่แห่งนี้ก็ลองหาโอกาสแวะไปเยี่ยมชมด้วยตนเองดูสักครั้งนะคะ